TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “大阪芸術大学Finance Degree Certificate[办证网:zjw211.com]-大阪芸術大学Finance Degree CertificateL5<网址:zjw211.com>-韶关大阪芸術大学Finance Degree Certificate-哪里办大阪芸術大学Finance Degree Certificate3q” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
BAY เดินหน้าสินเชื่อรถ พร้อมต่อยอด SB Finance ในฟิลิปปินส์
#BAY #ทันหุ้น BAY (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ เดินหน้าต่อยอดการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อ SB Finance ในประเทศฟิลิปปินส์ พร้อมส่งต่อความเชี่ยวชาญสินเชื่อรถ นายวันชัยระบิน จิตวัฒนาธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานธุรกิจระดับภูมิภาค ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานของ SB Finance ในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยยอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ยอดสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีหนึ่งในปัจจัยหลักมาจากความสำเร็จในการขยายพอร์ตสินเชื่อรถที่เติบโตขึ้นจากปีก่อนกว่า 3 เท่า ซึ่งสูงกว่าเป้าที่วางไว้ถึง 22% ทั้งนี้มาจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวเป็นอย่างดี และจากความต้องการสินเชื่อของลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญที่กรุงศรีส่งต่อเพื่อช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากยิ่งขึ้น โดยเรายังคงเน้นคุณภาพการให้สินเชื่อเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนต่อไป ด้วยความแข็งแกร่งในองค์ความรู้ และประสบการณ์ในการเป็นผู้นำด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค กรุงศรีได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ SB Finance ผ่านการส่งทีมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเข้าไปให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดทั้งแบบ Remote และ On site พร้อมทั้งจัดกิจกรรมศึกษาดูงานเพื่อให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ การตลาดดิจิทัล การบริหารความเสี่ยงและการควบคุมคุณภาพหนี้ โดยได้มอบหมายทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์สินเชื่อรถเข้าไปประจำที่สำนักงานในประเทศฟิลิปปินส์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และยังให้การสนับสนุนบุคลากรของกรุงศรีในสายงานไอทีและการเงินเพื่อรับการอบรมและฝึกปฏิบัติผ่านการทำงานจริง (OTJ) และประจำที่สำนักงานเพื่อที่จะช่วยผลักดันให้เกิดโซลูชันทางการเงินใหม่ๆ ในอนาคต นอกจากความสำเร็จในด้านผลการดำเนินงานแล้ว ในปีนี้ SB Finance ยังสามารถคว้า 2 รางวัลจากเวทีระดับสากล ประกอบไปด้วยรางวัล Best Digital Consumer Lender จาก The Asian Banker วารสารด้านการเงินชั้นนำ ซึ่งสะท้อนถึงการพัฒนาบุคลากร ผลิตภัณฑ์ ช่องทางการจำหน่าย และการใช้เทคโนโลยีคลาวด์เนทีฟ (Cloud Native) จนสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสินเชื่อที่หลากหลายและตรงความต้องการของลูกค้า รวมทั้งช่วยเพิ่มความสะดวกให้การทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล และรางวัล Silver Award for Excellence in Out of Home Advertising จากเวที Marketing Excellence Awards 2023 สำหรับความสำเร็จของแคมเปญสื่อสารการตลาดเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์โมบายแอปพลิเคชัน Zuki อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ซึ่งช่วยเพิ่มยอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
ทันหุ้น • 30 พ.ย. 66
อ่าน
“SGC ” ปล่อยสินเชื่อ SG Finance+ ส.ค.ทะลุเป้า หนุน Port สะสมทะลุพันล.
#ทันหุ้น - SGC เผยยอดสินเชื่อ SG Finance+ ในโครงการ Locked Phone เดือนสิงหาคมผลงานแรงทะลุเป้า หนุน 8 เดือนแรกปีนี้ปล่อยไปแล้วกว่า 100,000 เครื่อง และมีพอร์ตสินเชื่อทะลุ 1 พันล้านบาท ด้วย NPL ในระดับต่ำมาก หนุนภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 โตรับเทรนด์มือถือฟีเวอร์นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC เปิดเผยความสำเร็จสินเชื่อ SG Finance+ สินเชื่อโทรศัพท์มือถือภายใต้โครงการ Locked Phone มีการเติบโตก้าวกระโดด ในเดือนสิงหาคม 2567 ทำได้กว่า 41,000 สัญญา ทะลุเป้าที่วางไว้ 40,000 สัญญา สนับสนุนให้ 8 เดือนแรกปีนี้มีสินเชื่อรวมอยู่ที่กว่า 100,000 สัญญา และมียอดให้สินเชื่อสะสมของ SG Finance+ ทะลุ 1,000 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นการเติบโตในพอร์ตที่มีคุณภาพ และความเสี่ยงต่ำ อีกทั้ง ในเดือนกันยายน เพียง 5 วันแรกของเดือน มีลูกค้าให้การตอบรับหนุนยอดสัญญาใหม่ทำได้เกิน 10,000 สัญญาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งยังมองเห็นโอกาสในช่วงที่เหลือของปี โตรับเทรนด์ผู้บริโภคที่จะซื้อมือถือในช่วงปลายปีอย่างคึกคัก เนื่องจากเป็นไฮซีซั่นการออกสินค้ารุ่นใหม่ สินเชื่อ SG Finance+ จะเข้ามาสนับสนุนร้านค้าให้ขายสินค้าได้ง่ายขึ้น และมั่นใจว่า จะมียอดปล่อยสินเชื่อ SG Finance+ ภายใต้สัญญาทั้งหมด 300,000 สัญญาตามเป้าหมายที่วางไว้ในสิ้นปี ผ่านร้านค้าพันธมิตรกว่า 5,000 แห่ง ครอบคลุมทุกจังหวัดในประเทศทั้งนี้ SGC อยู่ระหว่างการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering, RO) โดยผู้ถือหุ้นที่จองซื้อและได้รับการจัดสรร RO จะได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิ (SGC-W2) โดยไม่คิดมูลค่า กำหนดราคาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนหุ้นละ 1.30 บาท ระยะเวลาจองซื้อระหว่างวันที่ 3 - 9 กันยายน 2567 การเพิ่มทุนในครั้งนี้ทำให้บริษัทมีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่ง รวมถึงขยายโอกาสทางธุรกิจสินเชื่อ SG Finance+
ทันหุ้น • 6 ก.ย. 67
อ่าน
Review การลงเรียน Coursera ฟรีและได้ Certificate มา 8 ใบ โดยใช้เวลาว่างใน 2 เดือน
สวัสดีค่ะ เนื่องจากช่วงนี้ หลายๆท่านส่วนใหญ่มีเวลาเพิ่มขึ้น คงจะกำลังเบื่อๆเพราะออกไปเที่ยวข้างนอกก็รู้สึกไม่ปลอดภัยเท่าที่ควรบางท่านอาจกำลังมองหากิจกรรมทำ วันนี้ซันเดย์ เลยจะขอแนะนำกิจกรรมยามว่าง ที่เพิ่มพูนทักษะของเรา ยกระดับโปรไฟล์เราไปอีกขั้นอย่างการลงเรียนคอสเรียนออนไลน์บน www.coursera.org นั่นเอง ซึ่งมีหลากหลายหลักสูตรจากสถาบันระดับโลกเปิดให้เรียนเมื่อเราเรียนจบแล้วก็จะได้ Certificate มาการันตีอีกด้วย แต่จะต้องมีค่าใช้จ่ายของแต่ละหลักสูตรประมาณ 1,500 บาทขึ้นไปส่วนบางหลักสูตรก็เปิดให้เราลงเป็น Audit Course ก็คือ เราสามารถลงเรียนเพื่อเอาความรู้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เราก็จะไม่ได้รับ Certificate นั่นเองแต่ที่ซันเดย์ลงเรียนมา คือได้ลงเรียนพร้อมกับได้รับ Certificate โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเลยค่ะเพียงแค่เราเลือกหลักสูตรที่เปิดเป็น Specialization แล้วเรียนแบบ 7-Day Free Trail คือเรียนให้จบภายใน 7 วันค่ะ ซันเดย์เลยอยากจะมาแบ่งปันแนวทางการลงเรียนแบบนี้กันนะคะ 1.การลงทะเบียนเป็นสมาชิกบนเว็บไซต์ www.coursera.org เราสามารถลงทะเบียนได้หลายรูปแบบ โดย ซันเดย์เลือกลงทะเบียนผ่าน Facebook นะคะ เนื่องจากสะดวกที่สุดสำหรับซันเดย์ค่ะ Credit : www.coursera.org 2.เมื่อเรา Log In เข้าไปแล้ว ก็จะเจอหลักสูตรมากมาย หลากหลายหมวดหมู่นะคะ แต่ที่เราจะสามารถลงใช้ 7-Day Free Trail ได้ จะเป็นหลักสูตรที่ระบุว่าเป็น Specialization โดยก่อนอื่นเราต้องเข้าไปลง Payment Method ไว้ด้วยนะคะ ซันเดย์จะลงไว้เป็นการตัดบัตรเดบิตค่ะ ที่เลือกบัตรเดบิตเพราะ ถ้าเราไม่มีเงินในบัญชีระบบก็ยังตัดบัตรเราไม่ได้ค่ะ เป็นการป้องกันตอนที่เราเผลอกดหลักสูตรที่ต้องชำระเงิน ณ ตอนนั้นนะคะ Credit : www.coursera.org 3.พอเราเจอหลักสูตรที่เราสนใจ และเปิดเป็น Specialization ก็เลือกกดเข้าไปดู จากนั้นให้เรากด Enroll For Free ก็จะขึ้นรายละเอียดของหลักสูตร โดยมีระบุว่า 7-Day Free Trail และ Certificate When You Complete นะคะ จากนั้นเราก็เลือก Start Free Trail เรากจะเริ่มเรียนได้เลยค่ะ Credit : www.coursera.org 4.วิธีการเรียนก็จะมีหลายรูปแบบนะคะ จำนวนสัปดาห์ที่เขาลงไว้มีตั้งแต่ 3 สัปดาห์ถึง 8 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับเนื้อหา โดยแต่ละหัวข้อหรือแต่ละสัปดาห์ พอเราเรียนเสร็จก็จะมี Quiz ให้เราทำให้ผ่านเกณฑ์ที่เขาระบุไว้ รวมทั้ง Peer Assignments ที่เราจะต้องทำงานส่ง โดยให้เพื่อนร่วมหลักสูตรเข้ามารีวิวและให้คะแนน ทั้งหมดนี้ เราจะต้องเร่งเรียนให้ครบภายใน 7 วัน ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของเราค่ะ 5.เมื่อเราเรียนไปจนครบ พร้อมกับ Quiz และทำ Assignment ผ่าน ระบบก็จะขึ้น Congratulation ที่เเปลว่าเราเรียนจบแล้ว จากนั้นเราก็เลือกรับ Certificate ได้เลยค่ะCredit : www.coursera.org 6.ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญคือ เมื่อเราได้รับ Certificate แล้ว ก็ต้องเข้าไปกด Cancel หลักสูตร ที่ My Purchase ออกนะคะ เพียงเท่านี้เราก็เรียนจบพร้อมได้รับ Certificate โดยที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเลยค่ะ ทั้งนี้ หลังจากที่เรายกเลิก Certificate ของเรายังไม่หายไปไหนนะคะ ยังคงเข้าไปดูหรือ Download ได้ตลอดค่ะ เป็นไงกันบ้างคะ หวังว่าบทความนี้ก็จะมอบคุณค่าให้ผู้อ่านได้บ้าง ไม่มากก็น้อยนะคะ หากใครที่ลองเเล้ว เป็นอย่างไรกันบ้างก็กลับเข้ามาแชร์กันได้นะคะ
Sunday's Rainy • 14 มิ.ย. 63
อ่าน
SGC สินเชื่อ SG Finance+ ก.ค.โตกระฉูด แย้มคุยพันธมิตรมือถืออีก 1-2 ราย
#SGC #ทันหุ้น-SGC รุกตลาดสินเชื่อมือถือต่อเนื่อง เผยถึงโครงการสินเชื่อ SG Finance+ ในเดือน ก.ค. ยอดเติบโตก้าวกระโดด หนุน 7 เดือนแรก ยอดสินเชื่อสะสมเข้าเป้า 60,000 สัญญา ภายใต้ความร่วมมือกับ 4 พันธมิตรแบรนด์มือถือชั้นนำ Oppo, Vivo, Xiaomi และ Realme ร่วมแคมเปญ Locked Phone ด้านผู้บริหารเผยข่าวดี อยู่ระหว่างเจรจากับพาร์ทเนอร์แบรนด์มือถือสัญชาติจีนอีก 1-2 ราย เร่งเครื่องรับช่วงไฮซีซั่นในช่วงไตรมาส 3-4/2567 นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC เปิดเผยว่า ตลาดสมาร์ทโฟนกำลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ส่งผลบวกต่อสินเชื่อ เอสจี ไฟแนนซ์พลัส (SG Finance+) ภายใต้แคมเปญ Locked Phone ในช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 คาดยอดการปล่อยจะเติบโตก้าวกระโดดเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยในครึ่งแรกของเดือนกรกฎาคม 67 มียอดปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า 17,000 สัญญา คาดว่าทั้งเดือนจะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 30,000 สัญญา/เดือนตามเป้า และใน 7 เดือนแรกปีนี้มีสินเชื่อสะสมรวมกว่า 60,000 สัญญา สำหรับแผนการขยายสาขาเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ โดยในไตรมาส 3/2567 จะมีร้านค้าพันธมิตรที่เป็นเจ้าของแบรนด์มือถือ (Brand Shop) เพิ่มเติม คาดว่าจะมีร้านค้าจากพันธมิตรรวมกว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปี 2567 นอกจากนั้นบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาความร่วมมือกับแบรนด์มือถือสัญชาติจีนอีก 1-2 ราย เพิ่มโอกาสการเติบโตรับแนวโน้มครึ่งปีหลังมีดีมานด์จากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI เข้ามากระตุ้นกำลังซื้อ โดยปัจจุบันสินเชื่อ SG Finance+ มีแบรนด์มือถือที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 4 แบรนด์ ได้แก่ Oppo, Vivo, Xiaomi และ Realme ซึ่งถือเป็นยักษ์ใหญ่ที่มีมาร์เก็ตแชร์ตลาดสมาร์ทโฟนในไทยรวมกันประมาณ 55% ทั้งนี้บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อที่รัดกุม โดยพิจารณาความเสี่ยงทางด้านเครดิตของลูกค้า และวงเงินกู้ตามความสามารถในการผ่อนของลูกค้า เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายของภาครัฐ (Responsible Lending) เพื่อควบคุมคุณภาพ NPL อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง เราเริ่มเปิดให้บริการสินเชื่อ SG Finance+ อย่างเต็มรูปแบบผ่านร้านมือถือชั้นนำทั่วประเทศ (Nationwide) ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและปล่อยสินเชื่อในเดือนดังกล่าวกว่า 18,000 สัญญา ขณะที่ ในเดือนกรกฎาคมเราเห็นสัญญาณการเติบโตที่ก้าวกระโดด มั่นใจภายในสิ้นปีนี้จะมียอดปล่อยสินเชื่อเติบโตแตะ 100,000 สัญญา/เดือน ตามแผน และมี SG Finance+ ภายใต้สัญญาทั้งหมด 300,000 สัญญา และพาร์ทเนอร์ช่องทางการจำหน่ายเติบโตแตะ 5,000 แห่งภายในสิ้นปี 67 ตามแผน นายอโณทัย กล่าว
ทันหุ้น • 19 ก.ค. 67
อ่าน
Pre-degree ม.ราม
การเรียน Pre-degree คืออะไรรู้จัก Pre-degree ม.รามคำแหงโดยที่ระบบ Pre-degree เป็นการเรียนรายกระบวนวิชาเก็บหน่วยกิตที่ได้สะสมไว้เทียบโอน เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทำให้น้อง ๆ สามารถเรียนจบปริญญาตรีได้เร็วยิ่งขึ้น และในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ จะพาน้อง ๆ ทุกคนไปทำความรู้จักกับระบบ Pre-degree กันให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงเรื่องกำหนดการสอบ ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการเรียน และข้อดีของการเรียน Pre-degree ที่จะช่วยทำให้เราสามารถพัฒนาตนเองได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยPre-degree คืออะไร?สำหรับการเรียนระบบ Pre-degree เป็นการเรียนปริญญาตรีล่วงหน้า โดยที่น้อง ๆ จะต้องใช้วุฒิการศึกษาชั้น ม.3 และจะต้องกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.ปลาย ปวช. ปวส. หรือ กศน. จากนั้นเมื่อน้อง ๆ เรียนจบในระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ก็จะสามารถเทียบโอนหน่วยกิตที่สะสมเอาไว้ไปเรียนในภาคปกติของมหาวิทยาลัยได้ มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีหลักสูตรที่เปิดสอนในระบบ Pre-degree ดังต่อไปนี้คณะนิติศาสตร์คณะบริหารธุรกิจคณะมนุษยศาสตร์คณะศึกษาศาสตร์คณะวิทยาศาสตร์คณะรัฐศาสตร์คณะเศรษฐศาสตร์คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์คณะสื่อสารมวลชน(ขอบคุณภาพจาก https://campus.campus-star.com/education/33544.html) เปิดรับสมัครเวลาสอบ ทางมหาวิทยาลัยรามคำแหงจะจัดการสอบหลังจากที่โรงเรียนปิดเทอมแล้ว โดยได้แบ่งออกเป็น 2 ภาคเรียน ได้แก่ภาคเรียนที่ 1 สอบประมาณเดือนตุลาคมภาคเรียนที่ 2 สอบประมาณเดือนมีนาคมเอกสารที่จะต้องนำมายื่นในวันสมัครหนังสือสำคัญแสดงคุณวุฒิสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3)สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 2 ฉบับสำเนาบัตรประชาขน หรือบัตรหน่วยงานราชการออกให้ จำนวน 3 ฉบับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด ให้ถ่านสำเนา จำนวน 2 ฉบับใบสมัครและใบขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา (ม.ร.2.) พร้อมติดรูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว จำนวน 1 รูปแผ่นระบายระเบียนประวัตินักศึกษา (ม.ร.25)**หมายเหตุ ไม่อนุญาตให้ใช้สำเนาหนังสือรับรองว่ากำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมาสมัครค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการเรียนค่าสมัครเข้าศึกษา 500 บาทค่าขึ้นทะเบียนเข้าศึกษา 300 บาทค่าบัตรประจำตัวนักศึกษา 60 บาทค่าบำรุงมหาวิทยาลัย 300 บาทค่าลงทะเบียนเรียนหน่วยกิตละ 50 บาท (จำนวนเงินขึ้นอยู่กับหน่วยกิตที่ลงทะเบียน)วิธีการเรียนเรียนจากห้องเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงตำราอิเล็กทรอนิกส์ (e-Book)ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (www.lib.ru.ac.th)ด้วยระบบบรรยายสดผ่านอินเทอร์เน็ต (Cyber Classroom)เรียนด้วยระบบ E-Learningเรียนด้วยระบบ Coures On Demandเรียนจาก DVD บันทึกคำบรรยายกระบวนวิชาเกณฑ์การให้คะแนนส่วนเกณฑ์การให้คะแนนของการเรียนการสอนในแบบ Pre-degree ส่วนใหญ่จะใช้เป็นคะแนนสอบ 100% โดยแบ่งเป็นเกรดเหมือนกับมหาวิทยาลัยทั่วไป แต่ในบางรายวิชาก็อาจจะมีการมอบหมายงานจากอาจารย์ผู้สอนให้ไปทำงานมาส่ง เพื่อทำการเก็บคะแนนจากงานอีกด้วย เนื่องจากคนที่สมัครเรียนกับมหาวิทยาลัยรามคำแหงสามารถเลือกได้ว่าจะเข้ามาเรียนหรือไม่เข้ามาเรียนก็ได้ แต่ต้องเข้ามาสอบให้ครบทุกวิชา และในปัจจุบันมหาวิทยาลัยรามคำแหงก็ได้ทำการเปิดการเรียนการสอนในวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นน้อง ๆ จึงสามารถที่จะเลือกเรียนได้ว่าจะเรียนแบบไหน ตามที่เราสะดวกหรือว่าได้เลยข้อดีของการเรียน Pre-degreeทำให้น้อง ๆ จบปริญญาตรีเมื่ออายุยังน้อยและมีทางเลือกอีกมากมายในการศึกษาต่อ หรือเลือกที่จะประกอบอาชีพก็ได้ช่วยเสริมการเรียนในระดับ ม.ปลาย ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นช่วยให้รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ทำให้น้อง ๆ สามารถพัฒนาตัวเองได้มากยิ่งขึ้น และการเรียนในแบบ Pre-degree ยังช่วยทำให้น้อง ๆ เรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้นในระดับ ม.ปลาย อีกด้วยการเรียน Pre-degree แบบออนไลน์ ทำให้น้อง ๆ มีอิสระในการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น เพราะสามารถที่จะย้อนฟังวิชาที่อาจารย์สอนซ้ำได้แบบอย่างรุ่นพี่จบ Pre-degree ประสบความสำเร็จในวิชาชีพ(ขอบคุณภาพจาก https://www.ru.ac.th/th/Predegree/index2) เปิดใจนักเรียน ม.ปลาย... ทำไมเรียน Pre-degree(ขอบคุณภาพจาก https://www.ru.ac.th/th/Predegree/index2)มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของลูกพ่อขุนไปด้วยกันนะ#พี่ที่แสนดีขอบคุณข้อมูล: https://campus.campus-star.com/education/63297.html
นกเค้าแมว • 27 พ.ค. 63
อ่าน
CSWA Certificate ที่คนใช้ Solidworks ควรมี
ในช่วงสุดท้ายของการเรียนมหาวิทยาลัยหลายๆท่านอาจมีความรู้สึกวิตกกังวลว่าหลังจากที่เรียนจบไปแล้วเราจะมีงานทำกันไหม โปรไฟล์ของเราจะตอบโจทย์สายงานที่เราอยากจะเข้าไปทำหรือเปล่า ซึ่งผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งคนที่มีความรู้สึกแบบดังกล่าว จึงเป็นที่มาของความคิดที่จะต้องหาทักษะติดตัว ด้วยความที่เรียนคณะวิศวกรรม ทักษะหนึ่งที่สำคัญและควรมีนั่นก็คือทักษะการเขียนแบบโดยคอมพิวเตอร์ เด็กวิศวะจะทราบกันดีว่ามีไม่กี่โปรแกรมที่เราใช้เขียนแบบกัน ซึ่งโปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในสถาบันการศึกษา(มีการเรียนการสอน) และในสถานประกอบการต่างๆนั่นก็คือ โปรแกรม Soidworks นั่นเอง ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถเขียนแบบได้ทั้ง 2 มิติ และสร้างโมเดลในรูป 3 มิติได้อย่างง่ายดาย หลายๆองค์กรจึงมีการซื้อ License สำหรับใช้งานภายใน และค้นหาบุคลากรที่สามารถใช้งานโปรแกรมดังกล่าวได้ แต่ผู้อ่านหลายท่านคงทราบดีว่าในทุกวันนี้การรับพนักงานใหม่เข้าทำงานในหลายองค์กรในปัจจุบันนี้ เริ่มเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน ที่นอกจากจะดูแค่เกรดเฉลี่ยที่จบการศึกษาของผู้สมัครเป็นเกณฑ์แล้วในกรณีที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานตรง ก็จะมีอีกสิ่งหนึ่งที่ HR จะมองหาด้วยนั่นก็คือ ใบรับรองความสามารถ หรือ Certificate นั่นเอง ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยรับรองว่าเรานั้นสามารถทำงานได้จริง และจะดีแค่ไหนหาก Certificate ดังกล่าวถูกรับรองภายใต้ Product นั้นๆรูปภาพโดย: ผู้เขียน ใบรับรองที่ผู้เขียนกำลังกล่าวถึงอยู่นั้นมีชื่อว่า CSWA ที่่ย่อมาจากคำว่า Certified SOLIDWORKS Associate ซึ่งเป็นใบรับรองพื้นฐานที่สุดสำหรับผู้ใช้งานโปรแกรม Solidworks และเหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปต้องการใบรับรองคุณวุฒิจากทาง Solidworks เพื่อใช่ในการแข่งขันสมัครงาน ให้มีความโดดเด่นมากกว่าผู้สมัครท่านอื่น ในฐานะที่ผู้เขียนเคยผ่านการสอบดังกล่าวมาแล้วนั้นจึงอยากแบ่งปันประสบการณ์และแนวข้อสอบให้กับผู้อ่านทุกท่านได้อ่านกัน โดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ของ Solidworks นั่นเองรายละเอียดและวิธีการการสมัครสอบสามารถกดที่ลิงค์นี้ https://www.solidworks.com/sw/support/796_ENU_HTML.htm และทำตามขั้นตอนที่ขึ้นแนะนำได้เลยโดยจะมีค่าธรรมเนียมการสอบที่ประมาณ 3,415.12 บาท นะครับโดยแนวข้อสอบจะเป็นดังนี้ส่วนที่ 1 จะเป็นข้อสอบพื้นฐานการเขียนแบบ( 3 ข้อ 5 คะแนน) ในส่วนนี้จะเป็นคำถามพื้นฐานในงานเขียนแบบโดยโจทย์จะมาในรูปของ Drawing และถามในเรื่องพื้นฐานทั่วไป เช่น การมองภาพ ภาพตัดรูปแบบต่างๆ ภาพฉายเป็นต้น ผู้เขียนอยากจะเน้นย้ำให้ศึกษาเนื้อหาพื้นฐานต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ ภาพตัดในแบบต่างต่างๆ เช่น1.Full section 2.Half section3.Offset section4.Broken-Out section5.Revolved section6.Remove sectionรูปภาพโดย : ผู้เขียนผู้อ่านควรศึกษาประเภทและตัวอย่างการนำไปใช้งานด้วยจะยิ่งดีเพราะจะทำให้ง่ายและเร็วต่อการมองภาพ ส่วนที่ 2 เป็นการสร้าง ชิ้นส่วนอย่างง่ายและการแก้ไขขนาด(2 ข้อ 15 คะแนน) 2.1.การใช้คำสั่ง Sketch 2.2.การใช้คำสั่ง Extrude Boss 2.3.การใช้คำสั่ง Extrude Cut 2.4.การแก้ไขขนาดรูปภาพโดย : ผู้เขียนในส่วนที่ 2 จะเป็นภาพง่ายๆ โจทย์จะให้เราวาดแล้วขึ้นรูปโมเดลขึ้นมาแล้วจากนั้น ใส่ material เข้าไป จากนั้นให้หาน้ำหนักของชิ้นงานว่ามีตรงกับใน Choice หรือไม่ จากนั้นนำรูปเดิม มาเปลี่ยนขนาดของ Dimension ที่บางจุดบนชิ้นงาน แล้วหาน้ำหนักใหม่ นำน้ำหนักที่ได้ไปตอบในในช่องว่างโดยการพิมพ์ตัวเลขที่เป็นคำตอบลงไป ซึ่งจะทำให้เราเดา Choice เหมือนข้อก่อนหน้านี้ไม่ได้แล้ว ส่วนที่ 3 เป็นการสร้าง ชิ้นส่วนทางกล ความยากระดับกลาง (2 ข้อ 15 คะแนน) 3.1.การใช้คำสั่ง Sketching 3.2.การใช้คำสั่ง Revolve Boss 3.3.การใช้คำสั่ง Extrude Cut 3.4.การใช้คำสั่ง Circular Pattern รูปภาพโดย : ผู้เขียนในส่วนที่ 3 จะเป็นภาพที่มีระดับความยากที่เพิ่มขึ้นมาจากในส่วนที่ 2 ขึ้นมาหน่อย โจทย์จะให้เราวาดแล้วขึ้นรูปโมเดลขึ้นมาเช่นเดิม แต่จะมีความซับซ้อนขึ้นมา เช่น โจท์จะให้เจาะรูตาม Drawing อาจเป็นรูแบบเดี่ยว หรือรูแบบเรียงแถวขึ้นอยู่กับชุดข้อสอบที่ได้รับ ขั้นตอนต่อไปก็ทำการใส่ material เข้าไป จากนั้นให้หาน้ำหนักของชิ้นงานว่ามีตรงกับใน Choice หรือไม่ จากนั้นนำรูปเดิม มาเปลี่ยนขนาดของ Dimension ที่บางจุดบนชิ้นงาน แล้วหาน้ำหนักใหม่ นำไปตอบโดยการกรอกในช่องว่าง ส่วนที่ 4 เป็นการสร้าง ชิ้นส่วนทางกล ความยากระดับสูง (3 ข้อ 15 คะแนน) 4.1.การใช้คำสั่ง Sketching 4.2.การใช้คำสั่ง Sketch Offset 4.3.การใช้คำสั่ง Extrude Boss 4.4.การใช้คำสั่ง Extrude Cut 4.5.การแก้ไขขนาด 4.6.การแก้ไขขนาดท่ี่จุดแก้ไขยากรูปภาพโดย : ผู้เขียนในส่วนที่ 4 จะเป็นภาพที่มีระดับความยากที่เพิ่มขึ้นมาจากในส่วนที่3 ขึ้นมาหน่อย สำหรับผู้เขียนแล้วถือว่ายากมากเลยทีเดียว โจทย์จะให้เราวาดรูป 2D แล้วขึ้นรูปโมเดลขึ้นมาเช่นเดียวกับโจทย์สองส่วนที่ผ่านมา ขั้นตอนต่อไปก็ทำการใส่ material เข้าไป จากนั้นให้หาน้ำหนักของชิ้นงานว่ามีตรงกับใน Choice หรือไม่ จากนั้นนำรูปเดิม มาเปลี่ยนขนาดของ Dimension แล้วหาน้ำหนักใหม่ นำไปตอบโดยการกรอกในช่องวางแต่การเปลี่ยนขนาดในข้อนี้เป็นการเปลี่ยนขนาดที่จุดที่มีวามซับซ้อน พูดง่ายๆคือเมื่อมีการเปลี่ยน ขนาด Dimension แล้วจะทำให้ชิ้นงานมีรูปร่างเพี้ยนไปทั้งหมดต้องใช้เวลาและสมาธิอย่างมากในการทำให้ภาพชิ้นงานเกิดความสมดุลอีกครั้งหลังเปลี่ยนขนาด ส่วนที่ 5 การประกอบชิ้นส่วนทางกลในโหมด Assembly (4 ข้อ 30 คะแนน) 5.1.Placing of base Part 5.2.การใช้คำสั่ง Mates 5.3.แก้ไขระยะ และ มุม ในการ Mates ชิ้นงาน ในส่วนสุดท้ายนี้โจทย์จะให้ชิ้นส่วนต่างๆของชิ้นงานสำหรับทำการประกอบ ในส่วนนี้ผู้สอบจะต้องเข้าอยู่ในโหมด Assembly และดึงชิ้นงานส่วนต่างมาวางในโปรแกรม ผู้สอบจะต้องเข้าใจถึง ความสัมพันธ์ของการใช้คำสั่ง mate ให้ดีเพื่อให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเลือกใช้คำสั่งในการประกอบชิ้นงาน ในส่วนนี้โจทย์ให้เรา mate ชิ้นส่วนของชิ้นงานที่ลิ้งค์ถึงกัน ซึ่งอยู่ในรูป Mechanism ว่าจะต้องมีความห่างหรือทำมุมกันกันเท่าใด ตัวอย่างที่สามารถดูได้จากรูปด้านล่างจะสังเกตได้ว่า ชิ้นส่วนสีแดงที่เป็นแท่งสองแท่งถูกวางอยู่ในรูปกากบาทโดยถูกควบคุมการหุบเข้าและกางออกโดยอุปกรณ์สีเขียวและสีม่วง เรียกว่า Cylinder รูปแบบการทำงานของ Cylinder นี้ก็คือชิ้นส่วนที่เป็นชิ้นสีม่วงจะสามารถเคลื่อนที่เข้าออกในอุปกรณ์ชิ้นสีเขียวได้และหน้าที่ของผู้สอบที่จะต้องทำนั่นก็คือ เมื่อมีการ mate กันของตัว Cylinder ชิ้นส่วนสีเขียวกับสีม่วงแล้วเราจะต้องกำหนดระยะตามที่โจทย์ระบุไว้ ว่าแท่งของชิ้นส่วนสีม่วงจะต้องออกกระบอกชิ้นส่วนสีเขียวกี่ mm. จากนั้นผู้สอบจะเข้าไปในคำสั่ง mass property เพื่อดูว่า mass Volume และ Center of mass ทั้งสามแกน เป็นเท่าไหร่ เช่น mass = 2324g. volume=2324297 m3 x=1.12,y=-173,z=1.87 เป็นต้น และนำค่าเหล่านี้ไปเลือกตอบใน Choice บนข้อสอบได้เลย ผู้เขียนคิดว่าโจทย์ในส่วนี้ค่อนข้างง่ายแต่ต้องใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนานสักนิดเพราะมีชิ้นงานหลายๆชิ้นที่จะต้องประกอบกัน และผู้เขียนอยากแนะนำแนะนำให้ผู้ที่จะสอบลองศึกษาความสัมพันธ์ต่างๆในคำสั่ง mate ให้ดีเพื่อที่จะได้ประกอบชิ้นงานได้อย่างรวดเร็ว รูปภาพจาก : grabcad.comข้อสอบจะมีทั้งหมด 14 ข้อ โดยมีคะแนนเต็ม 240 คะแนน ซึ่งผู้สอบจะต้องทำคะแนนให้ได้ 165 คะเเนนขึ้นไป ภายในเวลาระยะเวลา 3 ชั่วโมงสิ่งสำคัญคือจะต้องมีการเตรียมตัวที่ดี ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ผู้เขียนเชื่อว่าผู้อ่านจะสามารถสอบผ่านได้อย่างง่ายดายและรับใบรับรองมาครอบครองได้อย่างแน่นอนครับภาพปก: โดยผู้เขียน
ฟีรดาวส์ เลาะยะพา • 10 มี.ค. 63
อ่าน
เรียน Pre-degree ม.รามคำแหง ยากมั้ย?
เรียน Pre-degree ม.รามคำแหง ยากมั้ย? แบ่งเวลายังไง?สำหรับน้องๆที่กำลังสนใจระบบการเรียนแบบ Pre-degree ของ ม.รามคำแหง ที่เป็นทางเลือกหนึ่งในการค้นหาตัวเองในอนาคตโดยประหยัดทั้ง เวลา กับ ค่าเทอม ที่ไม่แพง และคุ้มค่า แต่ต้องแลกมากับความขยัน มีวินัย อดทน ของตัวเอง.......เริ่มสมัครได้ตั้งแต่อายุ15 ใช้วุฒิม.3 สมัครได้เลย!! ติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านทางเว็บไซต์ www.ru.ac.th หรือทางเพจของทางมหาวิทยาลัย PR Ramkhamhaeng University ซึ่งวันนี้เราจะนำประสบการณ์ของตัวเราเองมาแบ่งปันให้กับน้องๆเป็นแนวทางในการวางแผนนะคะเราเป็นนักเรียนพรีดีกรีคนนึง คณะสื่อสารมวลชน ของส่วนภูมิภาค ที่ตอนนี้กำลังจะขึ้นปี3แล้ววววว เย่ๆๆๆๆ!!! (ม.5กำลังจะขึ้นม.6)โดยจุดเริ่มต้นที่มาเรียนระบบนี้เมื่อตอนเราอายุ15ปี ใช้วุฒิม.3ของเราในการสมัคร ตอนแรกคือเกิดจากการที่พี่ชายของเราเรียนพรีดีกรีของรามเหมือนกัน ส่วนตัวพี่ชายเราเรียนคณะนิติศาสตร์ คุณแม่เราเลยอยากให้เราเรียนพรีดีกรีเหมือนพี่ชาย โดยแม่บอกเหตุผลว่าค่าหน่วยกิตถูกและประหยัดเวลา ไม่ต้องเข้าเรียน อ่านหนังสือ ฟังบรรยายไปสอบอย่างเดียว และสามารถเรียนจบปริญญาตรีภายในอายุ19ปี ถ้าขยัน อดทน มีระเบียบวินัยต่อตัวเอง ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากๆ ส่วนตัวเราในตอนนั้นคือใจเราอยากเรียนแบบปกติ และตั้งใจจะเข้าคณะที่เกี่ยวกับภาษาด้วยซ้ำ แต่พอแม่บอกว่าถ้าเราเริ่มต้นได้เร็วกว่าคนอื่นมันจะดีต่อตัวเราในอนาคต เราคิดว่าด้วยความที่ถ้าเราเรียนจบได้เร็วเราอยากจะทำงานหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว ซึ่งด้วยความที่เราสนใจอยากจะเรียนคณะมนุษยศาสตร์ แต่คณะนี้มีแค่ในส่วนกลาง(คือต้องไปสอบวันธรรมดาที่ม.รามคำแหงหรือที่กรุงเทพ) ซึ่งเราไม่ได้สะดวกขนาดนั้นเพราะเราอยู่ตจว. จึงไปศึกษาดูว่ามีคณะอะไรบ้างในส่วนภูมิภาคที่เราสนใจ ก็จะมี4คณะ ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะสื่อสารมวลชน และคณะรัฐศาสตร์ ณ ตอนนั้นแม่เราแนะนำให้เรียนรัฐศาสตร์ แต่เราก็ไม่ได้ชอบขนาดนั้นเลยคุยกับแม่ว่าจะเรียนสื่อสารแทนเพราะเราชอบดูพวกสื่อต่างๆหรือชอบการพูดสื่อสาร(ส่วนตัวเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง เข้าใจยากด้วยแหละ555) แม่ก็เห็นด้วยเพราะด้วยความที่เราสื่อสารกับคนไม่รู้เรื่องมันก็เหมือนเรียนอันนี้แล้วเราจะได้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นและได้พัฒนาตัวเองด้วย แต่อยากบอกว่าส่วนตัวเราเวลาอยู่กับเพื่อนมักจะเป็นผู้ฟังเสมอไม่ค่อยได้เล่าเรื่องของตัวเองสักเท่าไหร่ แม่ก็ถามว่าจะไปต่อยอดยังไง? เราในตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าจบไปจะทำอะไรแต่เราแค่เลือกในสิ่งที่เราชอบ คิดซะว่าเป็นการค้นหาตัวเองในขณะที่เราเรียนม.ปลายควบคู่ไปด้วย หลังจากที่คุยกันไปสักพักพอตกลงกันได้แม่เราก็สมัครให้เลย เมื่อขึ้นม.4มาเป็นช่วงโควิด-19 เรียนออนไลน์ที่บ้านอยู่แต่บ้านเพราะออกไปไหนไม่ได้ เราเองก็เรียนแผนวิทย์-คณิต ซึ่งไม่ใช่แผนที่เราถนัดเท่าไหร่และไม่ชอบวิทย์คณิตเลย แต่ด้วยความที่แผนการเรียนนี้มันสามารถมีทางเลือกมากกว่าเลยอดทนตั้งใจเรียนมาเรื่อยๆ ระหว่างปิดเทอมออนไลน์เราก็สอบปีแรกของรามแบบออนไลน์คิดว่าโชคดีมากเลยที่สอบแบบออนไลน์ทำให้เรามีเวลาเตรียมอ่านมากพอ เราก็ลงวิชาเลย6ตัวจุกๆ ซึ่งปีนั้นเป็นหลักสูตรเก่าต้องลงวิชาบังคับเป็นวิชาพื้นฐาน แต่เปลี่ยนหลักสูตรใหม่ตั้งแต่ปี 65 ขึ้นไป ส่วนตัวเราทำข้อสอบได้นะ ได้ A มา 3 ตัวเลย มีเทคนิคคืออ่านชีทแดงของม.ราม เก่าๆหลายๆปี จดสรุปไปนิดหน่อยเพื่อให้กลับมาอ่านแล้วจำได้ง่าย แค่ขยันอ่านบ่อยๆก็ทำได้เองไม่ยากเลย ส่วนเรื่องแบ่งเวลานั้น แต่ละคนมีเวลาชีวิตเป็นของตัวเองบางคนต้องช่วยทำงานของที่บ้านก็ต้องแบ่งเวลาอ่าน หรืออย่างเราที่อยู่บ้านไม่ได้ทำอะไรสักเท่าไหร่ ค่อนข้างที่จะไม่ยุ่งมากก็เลยมีเวลาอ่านได้เยอะ บอกเลยปีแรกเราเครียดมากจนตอนที่สอบวิชาอังกฤษผ่านคอมเป็นตัวสุดท้าย เรามีอาการปวดท้อง ตาเบลอไปหมดอ่านตัวหนังสือแทบไม่ได้จนกระทั่งนั่งกดข้อสอบอยู่ดีๆก็อ้วกออกมาเลย ซึ่งตอนนั้นเราปวดปจด.ด้วย คือมันเป็นอุปสรรคต่อการทำข้อสอบมากๆเลย (วิชาสุดท้ายแล้วแท้ๆ!!!) หลังจากเริ่มปรับตัวมาเรื่อยๆบวกกับขึ้นม.5 ต้องมาเรียนที่รร. เราก็เรียนไปด้วยทำกิจกรรมไปด้วยแต่พอถึงช่วงที่สอบของรามเราบางทีเราก็มาอ่านที่รร.หลังเลิกเรียนเสร็จทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนเราเริ่มจัดระเบียบความคิด เวลา และความรับผิดชอบมากขึ้นมาเรื่อยๆดังนั้น ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เราต้องให้ความสำคัญกับตัวเอง อย่าพยายามพึ่งคนอื่น ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร ไม่ว่าใครจะว่ายังไงกับเราไม่ต้องสนใจหรอก อยากทำอะไรก็ทำ แต่ละคนมีทางเลือกในแบบของตัวเอง เราก็เป็นคนนึงที่ไม่ได้เก่งอะไรแต่เราเป็นคนพยายาม ตั้งใจทำอะไรให้ดีที่สุด เราก็เชื่อว่าทุกคนทำได้นะ สู้ๆ!!!!!!!ส่วนเราในอายุ17 พอเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กมัธยมทั่วไป เราจะใช้เวลาพักผ่อนของเด็กม.ปลายธรรมดาๆคนนึง ในการอ่านหนังสือ อ่านชีทแดง ของม.ราม เพื่อเตรียมตัวสอบปี2/เทอม2 ซึ่งลงไป5วิชา เป็นปรนัยทุกตัว....ถามว่าขี้เกียจมั้ยกับการต้องแบ่งเวลาอ่านหนังสือเอง ก็ขี้เกียจนะแต่เราก็ต้องสอบให้ผ่านเพื่อตัวเราเอง ส่วนตัวเราเตรียมตัวอ่านประมาณเดือนนึง ระหว่างที่อยู่บ้านก็อ่านชีทแดงสัก20-30นาทีแล้วไปดูยูทูปต่อ หรือบางทีฟังเพลงไปด้วยอ่านไปด้วย ให้มันrelax เพราะเราเป็นคนไม่ชอบความเครียด พอวันไหนอ่านเยอะเราก็จะพักแล้วดูศิลปินที่ชอบหรือดูอะไรตลกๆฮาๆให้ได้หัวเราะออกมา5555 ทำแบบนี้ทุกวัน หรือบางวันที่รู้สึกหมกมุ่นก็จะออกไปเที่ยวข้างนอกกินของอร่อยๆกับครอบครัวเพื่อเปิดหูเปิดตา ซึ่งส่วนมากเราจะสอบช่วงเสาร์อาทิตย์เพราะเป็นของภูมิภาค และสามารถเลือกศูนย์สอบตามแต่ละจังหวัดที่อยู่ใกล้บ้านเราได้ อย่างของเราอยู่จังหวัดระยอง แต่ไปสอบที่ศูนย์สอบที่จันทบุรี ตอนไปสอบคนก็ไม่ได้เยอะมาก มีหลากหลายวัย รู้สึกไม่ได้กดดันอะไรมากเพราะบรรยากาศในห้องสอบแอร์เย็น ไม่แออัด แต่ตอนมาสอบแรกๆก็ตื่นเต้นเป็นปกติแหละ แล้วก็ผ่านมาได้ด้วยดี ถ้าใครที่ไม่ชอบอยู่บ้านเฉยๆลองค้นหาตัวเองศึกษาทางเลือกดีๆให้ชีวิตดูนะคะ เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนนะคะ เราเองก็จะสู้ไปพร้อมกันเปลวเทียนให้แสง รามคำแหงให้ทาง ขอบคุณภาพปกจาก : Piqselsภาพที่ 1 จาก : มหาวิทยาลัยรามคำแหง / www.ru.ac.thภาพที่ 2 จาก : มหาวิทยาลัยรามคำแหง / www.ru.ac.thภาพที่ 3 จาก : PR Ramkhamhaeng University / Official Page Facebook มหาวิทยาลัยรามคำแหงภาพที่ 4 จาก : PR Ramkhamhaeng University / Official Page Facebook มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
avazako • 16 เม.ย. 66
อ่าน
SGC เผยครึ่งปีแรก “SG Finance+” โตตามเป้า บอร์ดไฟเขียวเพิ่มทุนพว่งวอร์แรนต์
#SGC #ทันหุ้น-SGC เปิดแผนครึ่งปีแรก ชูสินเชื่อสมาร์ทโฟน SG Finance+ เป็นเรือธงสำคัญในการโต ล่าสุด ประกาศเปิดตัวพันธมิตรใหม่ จับมือแบรนด์ Realme เข้ามาร่วมบุกตลาดสินเชื่อสมาร์ทโฟนในไทย Kick off 1 ก.ค. เป็นต้นไป หลังผนึก Oppo - Vivo - Xiaomi ตอบโจทย์ลูกค้าทั่วประเทศ หนุนสินเชื่อ SG Finance+ ในงวดครึ่งแรกปี 67 มียอดปล่อยแล้วกว่า 30,000 สัญญา ยอดสินเชื่อรวมกว่า 280 ล้านบาท พร้อมคุมเสี่ยง NPL อยู่ในระดับต่ำ ด้วยเทคโนโลยี Locked Phone มองครึ่งปีหลังไฮซีซั่นธุรกิจมือถือ พร้อมฟีเจอร์ AI หนุนความต้องการ SG Finance+ พุ่งต่อเนื่อง รวมทั้ง การขยายพาร์ทเนอร์ร้านค้าเพิ่มช่องทางการโต จึงมั่นใจ เดินหน้าเทิร์นอะราวด์ตามที่วางไว้ ด้านบอร์ด SGC ไฟเขียวแผนเพิ่มทุนขาย RO สัดส่วน 1:1 พ่วงแจกวอแรนต์เสริมแกร่งธุรกิจในอนาคต นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC เปิดเผยว่า SGC เผยภาพรวมธุรกิจครึ่งปีแรกเดินหน้าตามแผน SGC เข้าสู่ช่วงเทิร์นอะราวด์ และเป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้ จากการมุ่งเน้นธุรกิจที่ให้ดอกเบี้ยรับสูงขึ้น การควบคุมความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ การเรียกเก็บเงิน การควบคุมต้นทุน สะท้อนมาที่พอร์ตสินเชื่อใหม่เติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยโฟกัสสินเชื่อ เอสจี ไฟแนนซ์พลัส (SG Finance+) ภายใต้แคมเปญ Locked Phone มองว่าจะเป็น Turning Point ของ SGC เนื่องจากแผนการปล่อยสินเชื่อเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบผ่านร้านมือถือชั้นนำทั่วประเทศ (Nationwide) ไปเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากพาร์ทเนอร์แบรนด์มือถือ และดีลเลอร์ร้านค้าชั้นนำจำนวนมาก โดยในเดือนมิถุนายน SG Finance+ ปล่อยสินเชื่อได้กว่า 18,000 สัญญา และมียอดสินเชื่อรวมกว่า 168 ล้านบาท สนับสนุนครึ่งปีแรกปล่อยสินเชื่อได้กว่า 30,000 สัญญา และมียอดสินเชื่อรวมกว่า 280 ล้านบาท ผ่านร้านค้าพันธมิตรครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 2,900 แห่ง ซึ่งคาดการณ์จะเติบโตแตะ 5,000 แห่งภายในสิ้นปี 67 และไฮไลท์ในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ได้จับมือพันธมิตรแบรนด์มือถือชั้นนำเพิ่มเติม ในแบรนด์ Realme สนับสนุนให้ในเดือนกรกฎาคม 67 จะมีแบรนด์มือถือที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 4 แบรนด์ ได้แก่ Oppo, Vivo, Xiaomi และ Realme ซึ่งถือเป็นยักษ์ใหญ่ที่มีมาร์เก็ตแชร์ตลาดสมาร์ทโฟนในไทยรวมกันประมาณ 55% เพิ่มโอกาสการเติบโตรับแนวโน้มครึ่งปีหลังมีดีมานด์จากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI เข้ามากระตุ้นกำลังซื้อ และความต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม สนับสนุนความต้องการสินเชื่อ SG Finance+ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก อย่างไรก็ดี ประเมินยอดปล่อยสินเชื่อจาก SG Finance+ คาดว่าจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ภายใต้นโยบายการปล่อยสินเชื่อที่รัดกุม โดยพิจารณาความเสี่ยงทางด้านเครดิตของลูกค้า และวงเงินกู้ตามความสามารถในการผ่อนของลูกค้า เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายของภาครัฐ โดยบริษัทมีแผนลดการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (C4C) ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ย EIR ต่ำ และมีการแข่งขันสูงกว่า อีกทั้งมีระยะเวลาการปล่อยสินเชื่อประมาณ 4-5 ปี ส่วนสินเชื่อ SG Finance+ ที่นำเข้ามาบุกตลาดในปีนี้ มีอัตราดอกเบี้ย EIR สูงกว่า มีระยะเวลาการปล่อยสินเชื่อเพียง 1-2 ปี สะท้อนรายได้ดอกเบี้ยรับมากกว่าเท่าตัว และเงินสดกลับเข้ามาที่บริษัทฯ เร็วขึ้น พร้อมกับการพิจารณาอนุมัติเฉพาะลูกค้าที่มีประวัติดี จึงมองเป็นโอกาสในการเติบโต สนับสนุนเป้าหมายในปี 67 ผลงานจะพลิกกลับมาเป็นบวก ด้วยคุณภาพ NPL อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง **บอร์ดไฟเขียวเพิ่มทุน ทั้งนี้ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (SGC) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 5,232 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 3,270 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 8,502 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 5,232 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยจะเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) 3,270 ล้านหุ้น ในอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยราคาเสนอขายจะเป็นราคาที่มีส่วนลดไม่เกิน 15% ของราคาตลาด ณ วันกำหนดราคาเสนอขาย รวมทั้ง จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 654 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 1 (SGC-W1) ซึ่งจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (ก่อนการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้) และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,308 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 2 (SGC-W2) ซึ่งจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน ทั้งนี้ การออกและเสนอขาย SGC-W1 จำนวนไม่เกิน 654 ล้านหน่วย โดยไม่คิดมูลค่าการเสนอขาย ในอัตราส่วน 5 หุ้นสามัญเดิม (ไม่รวมหุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่) ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ SGC-W1 กำหนดอัตราการใช้สิทธิของ SGC-W1 1 หน่วย ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญ มีอายุ 1 ปี โดยราคาใช้สิทธิแปลงสภาพจะเป็นราคาที่มีส่วนลด 10% ของราคาตลาด ณ วันกำหนดราคาใช้สิทธิแปลงสภาพ อีกทั้ง การออกและเสนอขาย SGC-W2 จำนวนไม่เกิน 1,308 ล้านหน่วย โดยไม่คิดมูลค่าการเสนอขาย ในอัตราส่วน 2.5 หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จองซื้อและได้รับการจัดสรร ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ กำหนดอัตราการใช้สิทธิของ SGC-W2 1 หน่วย ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญ มีอายุ 3 ปี โดยราคาใช้สิทธิแปลงสภาพจะเป็นราคาที่มีส่วนเพิ่ม 10% ของราคาตลาด ณ วันกำหนดราคาใช้สิทธิแปลงสภาพ สำหรับวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนครั้งนี้ SGC มีแผนจะนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการและขยายธุรกิจในอนาคต และใช้ชำระหนี้ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ซึ่งเป็นบริษัทแม่ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และรองรับโอกาสการขยายธุรกิจในอนาคต อย่างไรก็ดี สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนยังมีความไม่แน่นอนเนื่องจากต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/67 กำหนดจัดในวันที่ 7 สิงหาคม 67 นี้ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ทันหุ้น • 2 ก.ค. 67
อ่าน
7 ข้อควรรู้ในการนำรถจัด Finance
การนำรถจัด Finance คือ การนำรถไปจำนำยังบริษัทที่รับจัด Finance รถโดยตรง กล่าวง่าย ๆ คือ การเปลี่ยนรถเป็นเงินสดนั่นเอง จัดเป็นสินเชื่อการกู้ยืมเงินประเภทหนึ่ง แต่ว่าเรายังสามารถนำรถที่ไปจัด Finance ขับใช้ได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องนำเล่มทะเบียนรถไปยื่นวางไว้ที่บริษัทแทน โดยจะมีการคิดดอกเบี้ยการกู้ยืมเงินตามกฎหมายกำหนดไม่เกิน 15% ต่อปี ซึ่งข้อดี คือ เราได้เงินสดมาใช้แล้วยังสามารถใช้รถได้ตามปกติ จะเหมาะมากสำหรับผู้มีเหตุจำเป็นใช้จ่ายฉุกเฉิน เช่น ต้องนำเงินไปลงทุนค้าขาย ค่ารักษาพยาบาลด่วน ค่าเล่าเรียนการศึกษาบุตร เป็นต้น แต่ไม่รู้จะไปหยิบยืมเงินจากไหนก็สามารถนำรถที่มีอยู่ไปแปรสภาพเป็นเงินสดนั่นเองส่วนตัวผู้เขียนเองเคยมีประสบการณ์ต้องการเงินก้อนไปลงทุนค้าขาย จึงตัดสินใจนำรถไปจัด Finance และได้เงินก้อนมาลงทุนค้าขายต่อยอดไปเรื่อย ๆ จึงอยากมาแนะนำเป็นแนวทางสำหรับผู้อ่านที่สนใจก่อนตัดสินใจนำรถไปจัด Finance โดยผู้เขียนสรุปให้ทั้งหมด 7 ข้อดังนี้1. เอกสารสำคัญก่อนนำรถไปจัด Finance เราจะต้องเตรียมเอกสารพื้นฐานหลักสำคัญที่บริษัทจะเรียกถามหาเมื่อเราเข้าไปติดต่อ นั่นคือ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน เล่มทะเบียนรถ กุญแจสำรอง และรถที่นำเข้า แต่ทั้งนี้บางบริษัทอาจจะเรียกใช้ไม่ครบทั้งหมด เราก็เลือกนำรถไปเข้ากับบริษัทที่เราสะดวกด้านเอกสารหลักฐานที่ต้องเตรียมง่ายที่สุดค่ะ2. วงเงินให้กู้ก่อนเข้าไปติดต่อสอบถามบริษัทนั้น เราต้องทราบวงเงินที่เราต้องการกู้แน่นอน เพราะ ในแต่ละที่จะให้วงเงินแตกต่างกัน ข้อนี้จะเป็นตัวตัดสินใจสำคัญในการเลือกบริษัทที่จะนำรถไปจัด Finance โดยให้สอบถามหลาย ๆ ที่และเลือกบริษัทที่ให้วงเงินตามความต้องการเรานั่นเอง 3. อัตราดอกเบี้ยในแต่ละบริษัทจะมีโปรโมชั่นในการให้อัตราดอกเบี้ยแตกต่างกัน แต่ตามกฎหมายกำหนดให้ไม่เกิน 15% ต่อปี ดังนั้นเมื่อได้วงเงินกู้แล้ว ต่อมาเรื่องอัตราดอกเบี้ยก็เลือกบริษัทที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดค่ะ4. ระยะเวลาการผ่อนชำระอีกข้อสำคัญที่ควรทราบก่อนตกลงทำสัญญา คือ ระยะเวลาการผ่อนชำระต่ำสุดและสูงสุดได้กี่งวด และเราต้องมาพิจารณาความสามารถในการชำระของเราด้วยว่าแต่ละเดือนเราจะผ่อนได้ไหวไม่เกินจำนวนเท่าใด เพราะ ส่วนมากสัญญาจะกำหนดให้ผ่อนชำระ 1 งวดต่อ 1 เดือน อย่าเลือกผ่อนแบบสั้น ๆ เพื่อหวังว่าจะได้หมดเร็ว โดยไม่คำนึงถึงรายจ่ายต่อเดือน จนทำให้ผ่อนจ่ายไม่ไหวตามกำหนดเท่ากับว่าเราผิดสัญญาการชำระไปเลย ทำให้เสียประวัติได้ อีกทั้งควรสอบถามถึงเรื่องการปิดก่อนกำหนดไว้ด้วย เผื่อมีเงินก้อนมาจะได้วางแผนการเงินถูก เพราะถ้าไม่มีส่วนลดแล้ว ควรผ่อนจ่ายไปตามงวดปกติ ยิ่งถ้าค้าขายด้วยแล้ว ควรนำเงินก้อนไปหมุนลงทุนทางอื่นก่อนค่ะ5. วันครบกำหนดและช่องทางการชำระวันครบกำหนดชำระ ถ้าจ่ายตรงเวลาจะมีผลต่อการมีสถานะลูกค้าประวัติชำระดี ก่อนทำสัญญาต้องสอบถามให้ดีก่อนว่าถ้าทำสัญญาวันนี้จะครบกำหนดจ่ายวันใด โดยเฉพาะอาชีพประจำรับเงินเดือน ส่วนมากเงินจะได้ปลายเดือนวันที่ 28 แต่ถ้าสมมุติเราทำสัญญากำหนดจ่ายทุกวันที่ 18 แล้ว ต้องสอบถามทางบริษัทให้เข้าใจว่าจะชำระตอนเงินเดือนออกในปลายเดือนได้หรือไม่ มีผลต่อประวัติการชำระหรือเปล่า ซึ่งทางบริษัทจะแนะนำทางออกในการชำระที่ดีให้กับเรา อีกทั้งช่องทางการชำระเงินก็สำคัญ กรณีที่เราไม่สะดวกไปชำระเองที่บริษัท ควรสอบถามหาช่องทางชำระสำรองไว้เพื่อเราจะได้ชำระตรงเวลาค่ะ6. ตรวจสอบสัญญาก่อนลงลายมือชื่อหลังจากเลือกบริษัทจัด Finance พร้อมตกลงเรื่องวงเงินและระยะเวลาการกู้เรียบร้อยแล้ว ขอย้ำว่าก่อนลงลายมือชื่อในคู่สัญญาจำเป็นต้องอ่านและตรวจดูรายละเอียดให้ถูกต้อง โดยเฉพาะตรงจุดวงเงินกู้และระยะเวลาการผ่อนชำระจะสำคัญมาก หากข้องใจในจุดไหนให้รีบสอบถามทางพนักงานที่ทำเรื่องทันที หากลงลายมือชื่อไปแล้วถือว่ายินยอมตกลงตามสัญญาที่ระบุไว้ ถ้าจะมาขอแก้ไขภายหลังจะเป็นเรื่องยากค่ะ7. กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินทุกคนย่อมจะได้เผชิญกับเหตุการณ์ฉุกเฉินกันได้ อย่างผู้เขียนเองมีอยู่เดือนหนึ่งเกิดป่วยเข้าโรงพยาบาลกระทันหัน ทำให้ไปจ่ายค่างวดตามกำหนดไม่ได้ จึงรีบโทรไปแจ้งยังบริษัทให้รับทราบพร้อมบอกเหตุผลและขอคำปรึกษาในปัญหานี้ทันที เพื่อแสดงว่าเราต้องการชำระค่างวดตามกำหนดแต่ว่ามีเหตุฉุกเฉินเข้ามา ซึ่งทางบริษัทก็ได้ช่วยเสนอแนะให้มาชำระอย่างช้าสุดได้ถึงวันไหน จะโดนค่าปรับจำนวนเท่าใด และถ้าเงินไม่พอจ่ายเลยและต้องการเงินเพิ่มก็แนะนำให้ทำสัญญาใหม่ได้ ดังนั้นจึงอยากย้ำว่าถ้าเราอยู่ระหว่างกู้การติดต่อกับบริษัทเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะมีประวัติของท่านในการติดต่อทางบริษัทด้วย ดีกว่าขาดการติดต่อไปเลย ย่อมจะไม่เป็นผลดีแก่เราเองค่ะจบลงไปแล้วนะคะ สำหรับข้อควรรู้ในการนำรถจัด Finance ที่สรุปมาจากประสบการณ์ผู้เขียน เพื่อจะได้เป็นแนวทางสำหรับใครที่จำเป็นต้องใช้เงิน การกู้ยืมเงินโดยนำรถจัด Finance ไม่ได้น่ากลัวแบบที่คิด เพราะ ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินข่าวมาบ้างว่า บางคนถูกยึดรถบ้าง แต่ถ้าเราได้ศึกษารายละเอียดกันก่อนกู้จะไม่มีปัญหาใด ๆ เลย แต่ทั้งนี้ต้องเลือกบริษัทรับจัด Finance รถที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย อีกทั้งเมื่อปิดไปแล้ว เมื่อถึงเวลาจำเป็นต้องใช้เงินอีกรอบก็ไปติดต่อกู้ใหม่ได้ง่าย เพราะ เรามีเครดิตดีกับบริษัทอยู่แล้วนั่นเอง ภาพปกโดย Pixabayภาพประกอบที่ 1 โดย นักเขียน / ภาพประกอบที่ 2 โดย Pixabay / ภาพประกอบที่ 3 โดย Pixabay / ภาพประกอบที่ 4 โดย Pixabay / ภาพประกอบที่ 5 โดย Pixabay / ภาพประกอบที่ 6 โดย Pixabay
เนตรดาว • 30 เม.ย. 63
อ่าน
ซัมซุง ชวนคนไทยอัปสกิล Coding และ AI ฟรี! เพิ่มคอร์สใหม่ Samsung Innovation Campus 2025 เจาะลึกเนื้อหาเข้มข้น รับ e-Certificate ทันทีหลังเรียนจบ
ซัมซุง เดินหน้ายกระดับโครงการ Samsung Innovation Campus 2025 ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้วยเป้าหมาย “Innovation for All” ที่มุ่งสร้างโอกาสการเรียนรู้เทคโนโลยีให้เข้าถึงได้สำหรับทุกคนอย่างเท่าเทียม พร้อมเสริมความเข้มข้นของหลักสูตรออนไลน์ฟรี ครอบคลุมตั้งแต่ Coding ขั้นลึก การใช้ AI สร้างคอนเทนต์การตลาด ไปจนถึง Data Science เพื่อปลดล็อกทักษะดิจิทัลสำคัญที่ตลาดแรงงานทั่วโลกต้องการอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ทั้งนักเรียน คนทำงานที่ต้องการอัปสกิล และผู้เริ่มต้นที่สนใจ โดยเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาและรับประกาศนียบัตรจากซัมซุง โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นระดับโลกในการนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและทรัพยากรกลับคืนสู่สังคม เพื่อเพิ่มองค์ความรู้และต่อยอดการใช้งานได้จริงทั้งในชีวิตประจำวัน การศึกษา และเส้นทางอาชีพ สะท้อนจุดยืนของซัมซุงในฐานะแบรนด์ที่ผลักดันนวัตกรรมให้เป็นพลังขับเคลื่อนอนาคตที่ดีกว่าอย่างแท้จริง สำหรับความพิเศษในปีนี้ ซัมซุงเดินหน้าขยายขอบเขตการเรียนรู้ จัดสอนเนื้อหาทั้งหมด 4 คอร์สออนไลน์ฟรี โดยเพิ่ม 2 คอร์สใหม่ที่เข้มข้นและทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์โลกยุค AI และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของทั้งสังคมการเรียนรู้และตลาดแรงงาน ช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ได้จริงในทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาโค้ดขั้นสูง (Advanced Coding), การใช้AI สร้างคอนเทนต์การตลาด (AI Marketing Content Creation), การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Science) และ พื้นฐานการคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking)ออกแบบมาให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมรับประกาศนียบัตรจากซัมซุงเพื่อเพิ่มโอกาสในเส้นทางอาชีพอย่างเป็นรูปธรรมSoftware Development Concepts and Testing with Pythonคอร์สใหม่ของปีนี้ที่จะยกระดับจากการเขียนโค้ดพื้นฐาน สู่ความเข้าใจแนวคิดการพัฒนาโปรแกรมอย่างเป็นระบบ พร้อมเรียนรู้เทคนิคการทดสอบโค้ดให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการต่อยอดจากพื้นฐานการเขียนโปรแกรมAI in Content Marketingอีกหนึ่งคอร์สใหม่น่าสนใจ ช่วยเปิดมุมมองใหม่ของการใช้ AI เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ทางการตลาด พร้อมวิธีการสร้างคอนเทนต์ให้น่าสนใจตรงใจผู้บริโภคยุคดิจิทัล เหมาะกับนักการตลาด นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ คนทำงาน และนักเรียนที่ต้องการใช้AI เป็นเครื่องมือเพิ่มโอกาสทางธุรกิจหรือเพิ่มทักษะการนำเสนองานให้น่าสนใจIntroduction to Programming with Pythonคอร์สปูพื้นฐานการเขียนโปรแกรมสำหรับผู้เริ่มต้น ตั้งแต่ระดับ 0 ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปีที่ผ่านมา พร้อมกลับมามอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างคำสั่ง พื้นฐานการคิดแบบตรรกะที่จำเป็นสำหรับทุกสายอาชีพ แม้ไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็สามารถเริ่มเรียนได้อย่างมั่นใจA.I. in the Workplaceกลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้อง กับคอร์สเรียนที่พาไปรู้จักการใช้งาน AI ในบริบทของการทำงานจริง เรียนรู้เครื่องมือ เทคนิค และแนวทางการประยุกต์ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและแก้ปัญหาในสายอาชีพต่าง ๆ พร้อมปูพื้นฐานให้นักเรียน นักศึกษา ได้เตรียมความรู้ ความเข้าใจก่อนเข้าสู่โลกของการทำงาน นอกจากหลักสูตรออนไลน์ที่เปิดให้ทุกคนเข้าเรียนได้ฟรีแล้ว Samsung Innovation Campus 2025 ยังเป็นการขยายโอกาส และต่อยอดความสำเร็จจากโครงการ Samsung Innovation Campus in School ที่ได้ลงพื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะด้านเทคโนโลยีให้เยาวชนและคุณครูในโรงเรียนทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย เพื่อขยายโอกาสในการพัฒนาทักษะความรู้อย่างเท่าเทียมและเท่าทันโลก
TNN ช่อง16 • 19 ส.ค. 68
อ่าน
▶️คลิป : วิธีฝึก 90 degree hold
วิธีฝึก 90 degree hold ท่าที่บอดี้เวทสายโยคะ, Calisthenics, streetworkout, Gymnastic ไม่ควรพลาดกดไลค์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจ และอย่าลืมกด Subscribe ด้วยนะครับ ร่วมเป็นผู้สนับสนุนช่อง https://www.youtube.com/channel/UCxFgxC1Z-jUBNTDPc5O9J-g/joinร่วมเป็นผู้สนับสนุนช่อง เริ่มต้น 35บาทต่อเดือน เพื่อเป็นกำลังใจในให้เรากันได้ครับ🙏🏻🙏🏻 โปรแกรมสำหรับอื่นๆดูที่👇👇👇YouTube https://youtube.com/c/UCANTHENICZFanpage:https://www.facebook.com/Ucanthenicz/ ติดตามเพิ่มเติมได้ที่นี่👇👇👇👇IG:https://www.instagram.com/coach_cheir TrueID:https://creators.trueid.net/@94757 Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSJBtk2Qk/ SnackVideo :http://sck.io/Ly8wdIdy LineID : coach_cheir ออกกำลังกายอยู่บ้านได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !
UcanThenicz • 31 พ.ค. 64
อ่าน
พาไปส่องงานเปิดตัว 137 Degrees x ButterBear
สวัสดีค่ะหลายวันก่อนเราได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวสินค้า 137 Degrees ที่พาราก้อน เป็นงานเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนสวยคนใหม่ นั่นก็คือน้องหมีเนย Butter Bear นั่นเองจ้า เรียกว่าเลิศหรู แถมมีทั้งความน่ารักและก็ยังได้รู้จักสินค้าแบรนด์ใหม่ๆของทางบ้านเราด้วย นั่นก็ แบรนด์ 137 Degrees เหมาะสำหรับใครที่ไม่ชอบดื่มนมวัวเพราะว่า นมของทางแบรนด์ทำจากถั่วชนิดต่างๆค่ะ โดยงานนี้เป็นการรวมตัวของผู้โชคดีที่ทางแบรนด์ได้ประกาศกิจกรรมให้ร่วมสนุกไปก่อนหน้านี้ค่ะ โดยงานนี้มีชื่อเต็มว่า Meet Milk: จิบนมฮีลใจกับน้องเนย By 137 Degrees ว้าว แค่ภาพเปิดตัวเชิญชวนไปงานก็น่ารักแล้วค่ะ นมเพื่อสุขภาพน้องหมีเนยก็เลยต้องออกกำลังกายสักหน่อย อิอิ 37 Degrees x ButterBear วันที่ไปร่วมงานจะบอกว่างานจัดมาในรูปแบบ Canival เปิดตัวได้หรูหราพร้อมกับความน่ารักของน้องหมีเนยที่มีลวดลายรุ่นพิเศษออกมาให้พวกเราได้สะสมกันหลายรุ่นเลยค่ะ และแต่ละรุ่นก็มีน้องหมีเนยใส่ชุดน่ารักๆแต่ละแบบอยู่ข้างแต่ละรสชาติค่ะ ซึ่งแต่ละรสชาติก็จะมีน้องหมีเนยก็จะทำจากถั่วหลายๆอย่างค่ะ บรรยากาศภายในงาน น่ารักมากๆเลยค่ะ เพราะว่าเขาได้ทำการตั้งสแตนดี้ของน้องเนยควบคู่ไปกับกล่องนมแต่ละรุ่นขนาดใหญ่เอาไว้ให้แฟนคลับได้ถ่ายรูปเก็บภาพกันอย่างสนุกสนานก่อนน้องจะมาค่ะ และนอกจากนั้นแล้วงานด้านในก็ยังมีกิจกรรมให้ผู้โชคดีได้ร่วมกิจกรรมกันอีก รุ่นพิเศษ Butter Bear Limited edition จะมีให้พวกเราสะสมถึง 5 ลาย 5 รส เลยทีเดียว !! Macadamia milk นมแมคาเดเมีย ,Almond Milk อัลมอนด์ , Walnut Milk นมวอลนัท , Pistachio Milk นมพิสตาชีโอ , Belgian Chocolate รสช็อคโกแลตเบลเยียม และในงานมีให้ชิมด้วยนะคะ หลังจากน้องเนยมาถึงก็มีวีดีโอเปิดตัวพร้อมกับเพลงกึ่งมิวสิคเคิล สุดพิเศษ ที่น้องเนยและทีมงานมาพิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และมีวลีเด็ดที่ทำให้ทุกคนขำพร้อมกันก็คือ " คนจะผอมเขาไม่ทานมื้อดึกกันหรอกค่ะมัม!! " หลังจากที่ได้ชิมเราจะบอกทุกคนว่าถ้าใครชอบนมที่มีรสชาติมันหน่อย บอกเลยว่าแบรนด์นี้จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากนมวัวทั่วไปค่ะ หวังว่าบทความที่เรานำมาฝากจะทำให้ทุกคนรู้จักแบรนด์นี้และก็รุ่นพิเศษของน้องหมีเนยรุ่นนี้มากขึ้นค่ะ ^^ ขอบอกหน่อยนึงว่าตอนนี้น้องไม่ได้มีขายรุ่นน้องเนยแค่ใน 7-11 อย่างเดียวแล้วนะคะ เพราะว่าเราเริ่มเห็นแบรนด์เพิ่มรุ่นของน้องเนยที่ห้าง Tops แล้วค่ะ ใครที่กำลังตามหาก็ลองไปดูกันได้เลยคิดว่าหลังจากนี้น่าจะหาลายน้องได้ง่ายขึ้นค่ะ ข้อมูล : Mallibell ภาพประกอบ : 1 Mallibell เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Mallibell • 30 เม.ย. 68
อ่าน
ประสบการณ์เรียน Pre-degree ม.รามคำแหง ครั้งแรกตลอด 1 เทอม
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ห่างหายกันไป 3 เดือนกว่าเลยเลยที่ผมไม่ได้เขียนบทความ ต้องขอเกริ่นสาเหตุที่ไม่ได้เขียนบทความเนื่องจากติดงานหลายอย่าง ผมเป็นนักเรียนมัธยมปลายและเรียน Pre-degree ม.รามคำแหงไปด้วย และช่วงก่อนหน้าที่ผ่านมาเป็นช่วงสอบของโรงเรียนตามด้วยของมหาวิทยาลัยรามคำแหงผมจึงไปเตรียมตัวสอบ และได้ผ่านช่วงเวลาสอบมาแล้ว ผมจึงอยากจะเอาประสบการณ์การเรียน เรียนของตัวเองในช่วง 1 เทอมที่ผ่านมาแบ่งบันให้เพื่อน ๆ ให้ได้ทราบต้องขออธิบายกันก่อนนะครับว่า Pre-degree คืออะไรสำหรับเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านแล้วอ่านไม่ทราบ แต่ผมเดาว่าคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาอ่านบทความนี้น่าจะเป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหงเช่นเดียวกันกับผม แต่จะขอให้ข้อมูลไว้ เผื่อมีรุ่นถัดมาหาข้อมูลสนใจเรียน Pre-degree เหมือนกันกับผมผมจะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ นะครับPre-degree คือการเรียนปริญาตรีล่วงหน้า เหมาะสำหรับคนที่จบ ม.3 แล้ว โดยนักศึกษา Pre-degree สามารถเรียนควบคู่ไปกับมัธยมปลายได้ เมื่อสมัครเป็นนักศึกษา Pre-degree ก็ลงทะเบียนเข้าเรียนออนไลน์หรือในมหาวิทยาลัยตามแต่สะดวก และก็สอบปลายภาคครับ ข้อดีคือเหมาะสำหรับคนที่รู็ตัวเองเร็วว่าชอบอะไรอยากเรียนอะไร และผู้ที่ต้องการจบปริญญาตรีเร็วกว่าปกติครับสำหรับผมนั้นสมัครเป็น Pre-degree (ส่วนกลาง) รหัส 66 และเรียนคณะมนุษย์ศาสตร์ เพราะผมมีความสนใจในภาษาญี่ปุ่น จึงเลือกเรียนวิชาเอกเอกญี่ปุ่น และวิชาโทภาษาไทยวิทยาครับ อันที่จริงอยากให้มีคณะมนุษย์เปิดสอนในส่วนภูมิภาคด้วยแต่ว่าก็ไม่มีคณะนี้เปิด จึงทำให้ผมตัดสินใจเรียนส่วนกลางตามความชอบของตนเอง ข้อดีของมหาวิทยลัยรามคำแหงที่ผมชอบคือเราสามารถจัดการบริหารเวลาเรียนเองได้เพราะเราแค่ลงเรียนในวิชาที่โครงสร้างหลักศุตรกำหนดโดยลงได้สูงสุด 22 หน่วยกิตต่อเทอม และลงได้ 3ภาคเรียน คือ 1และ 2 และภาคฤดูร้อนแต่ภาคฤดูร้อนจะลงได้น้อยกว่า ลงเสร็จสอบผ่านก็ยื่นขอจบการศึกษาได้เร็ว อย่างคณะผมใช้ 139 หน่วยกิต จบเร็วที่สุดได้ก็แค่ 3 ปี อีกอย่างคือไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็สามารถสมัครเป็นนักศึกษาเข้าเรียนได้ ให้อิสระกับการศึกษาและการบริหารจัดการตัวเอง ผมว่าเป็นมหาวิทยาลัียที่เหมาะกับผมครับและอีกอย่างคือการเปิดให้นักเรียน ม.ปลายเรียนล่วงหน้าคือการ Pre-degree เพื่อน ๆ คนไหนชอบสไตล์การเรียนแบบนี้ผมก็ขอชวนมาสมัครเรียนกันได้เลยนะครับ จุดเริ่มต้นการสนใจเรียน เกิดขึ้นในช่วงท้าย ม.3 ของผมหลังจากที่ผมได้เลือกเรียนต่อ ม.ปลาย แผนการณ์เรียนวิทยาศาสตร์ -คณิตศาสตร์ (เพิ่มเติมภาษาญี่ปุ่น) จึงอยากลองเรียนภาษาญ๊่ปุ่นในระดับที่สูงขึ้นไปอีก หากเพื่อน ๆ จะตัดสินใจเรียนอะไรก็ลองหาสิ่งที่เหมาะกับเราและตัดสิ้นใจเลือกนะครับในส่วนของการเรียนผมยอมรับเลยว่าเหนื่อยมาก ๆ เพราะนอกจากจะต้องเรียนในโรงเรียนแล้วนักศึกษา Pre-degree อ่านหนังสือเตรียมสอบด้วย โดยผมใช้อ่านเอกสารที่สอนและทำสรุปเป็นไฟล์ไว้อ่าน แล้วมันก็จะมีบางวิชาที่อาจารย์ไม่ได้ทำเอกสารประกอบการสอนผมก็ใช้วิธีดูบรรยายย้องหลัง ซึ่งสามารถรับชมผ่านเว็บไซต์ได้เป็นอะไรที่สะดวกมาก ๆ แล้วก็ทำสรุปเนื้อหาครับ เทอม 1 /66 ตอนนี้เกรดออกมาก็เป็นประมาณนี้เลยบางเกรดก็พอจะรู้ก่อนผลออกเพราะ จากการที่ไปสอบ e-testing ก็พอจะรู้เกรดแล้วบางวิชาไว้ถ้ามีโอกาสผมจะเอาเรื่องสอบ e-testing มาเขียนให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันครับแหม ผมเองก็ได้มาครบเลย ตั้งแต่ A ถึง F เลยต้องรับกันแบบอบอุ่นสำหรับการเป็นนักศึกษาใหม่เทอมแรกของผม แต่ก็ผ่านไปสำหรับประสบการณ์การเรียน มาถึงช่วงสอบผมต้องเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพ ก็ด้วยความที่เราไม่เคยไปกรุงเทพ ก็ครั้งนี้และก็เป็นโอกาสครั้งแรกที่ได้ไป ผมก็ฝึกเดินทางด้วยตัวเองในกรุงเทพอ่ะน่ะแรก ๆ ก็มีไปทันบ้าง หลัง ๆ ก่อนเริ่มเรียนแล้ว ผมชอบแวะไปหอสมุดกลางมหาวิทยาลัยมาก ๆ มีหนังสือให้อ่านเยอะเลยบรรยากาศเงียบสงบ และมีมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกด้านการเรียนเยอะเลย การเรียน Pre-degree ม.รามคำแหง เทอมแรกของผมก็สนุกมากแต่เหนื่อยโดยรวมผมถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ช่วยให้ผมได้พัฒนยาตนเองได้เรียนรู็อะไรหลายอย่างและได้ความรู้ใหม่ ๆ ในชีวิตนอกจากการเรียนการสอนแล้วผมก็ได้ประสบการณ์ต่าง ๆ มากครับ สุดท้ายนี้ขอขอคุณที่อ่านกันมาจนจบนะครับ ใกล้ปีใหม่แล้ว สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับภาพปกออกแบบด้วย canva ภาพประกอบปกบทความ จาก canva ของ aopsan ภาพที่ 1 ขอบคุณรูปภาพจาก lil_foot_ จาก Pixabayภาพที่ 2 ขอบคุณรูปภาพจาก Sasin Tipchai จาก Pixabayภาพที่ 3 โดยผู้เขียน ขอบคุณรูปภาพจาก Ramkhamhaeng University. RU Course on Demand (M-Learning) ภาพที่ 4 โดยผู้เขียน ขอบคุณรูปภาพจาก e-Services Ruติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง ใช้เป็นภาพประกอบบทความเท่านั้นเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
NaaiKianKot • 7 ม.ค. 67
อ่าน
Samsung Finance คืออะไร ผ่อนยังไง เช็กบูโรไหม เช็กที่นี่เลย
รู้จัก Samsung Finance บริการผ่อนสินค้าซัมซุงแบบไม่ใช้บัตร ผ่อนยังไง? ต้องเช็กบูโรไหม? สมัครง่ายไหม? เรารวมคำตอบไว้ที่นี่แล้วSamsung Finance คืออะไร? บริการผ่อนสินค้าแบบไม่ใช้บัตรที่คุณควรรู้Samsung Finance คือบริการสินเชื่อเพื่อผ่อนชำระสินค้าของแบรนด์ Samsung ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้า เช่น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต ทีวี หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ผ่านการผ่อนชำระแบบรายเดือน โดยปัจจุบันมีพันธมิตรหลักคือบริษัท AEON Thana Sinsap (Thailand) Public Company Limited ซึ่งเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อและบริหารจัดการระบบการผ่อน ผ่อนกับ Samsung Finance ยังไง?การผ่อนชำระผ่าน Samsung Finance ทำได้ง่ายมาก โดยมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:1. เลือกสินค้าที่ร่วมรายการ ณ Samsung Experience Store หรือช่องทางออนไลน์2. แจ้งความประสงค์ขอผ่อนผ่าน Samsung Finance กับพนักงาน หรือกรอกข้อมูลออนไลน์3. เตรียมเอกสารประกอบการสมัคร เช่น บัตรประชาชน สลิปเงินเดือน หรือรายการเดินบัญชีย้อนหลัง4. รอผลอนุมัติ ภายใน 30 นาทีถึง 1 วันทำการ5. เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว สามารถรับสินค้ากลับบ้านได้เลย หรือรอจัดส่งหากซื้อออนไลน์ระยะเวลาผ่อนมีตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 36 เดือน ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นและรุ่นของสินค้า โดยบางรายการอาจมีดอกเบี้ย 0% หรือมีดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษในช่วงแคมเปญ สมัคร Samsung Finance ต้องเช็กบูโรไหม?คำตอบคือ “เช็ก”การสมัครผ่อนกับ Samsung Finance จะมีการตรวจสอบเครดิตบูโรของผู้สมัคร เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งเป็นขั้นตอนมาตรฐานของการปล่อยสินเชื่อในระบบ โดยหากผู้สมัครมีประวัติการชำระดี หรือไม่ติดเครดิตบูโร ก็มีโอกาสได้รับการอนุมัติสูงขึ้นในกรณีที่มีประวัติชำระล่าช้าหรือมีหนี้ค้างชำระ อาจทำให้ไม่ได้รับการอนุมัติ หรือได้รับวงเงินที่ต่ำลงข้อดีของ Samsung Finance• ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต• ผ่อนได้ยาวสูงสุด 36 เดือน• มีโปรโมชั่นดอกเบี้ยพิเศษ• สมัครง่าย อนุมัติไว• ซื้อได้หลายประเภทสินค้า ทั้งสมาร์ตโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้า
TNN ช่อง16 • 5 เม.ย. 68
อ่าน
เรียนภาษาฟรี ช่วงกักตัว แถมได้ใบCertificated อีกด้วย!
เพราะการเรียนรู้นั้นไม่มีที่สิ้นสุด และไม่จำกัดช่วงอายุหรือเวลาแต่อย่างใด โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด 19 ในปัจจุบัน ที่ทำให้ใครหลายๆคนต้องทำงานอยู่บ้านหรือWork from home บางครั้งเราอาจมีอาการเบื่อๆบ้าง วันนี้เราจึงมีช่องทางสำหรับการเรียนภาษาอยู่บ้านมาฝากกัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพัฒนาภาษาของตนเองให้ดีขึ้น และต้องการเรียนรู้ภาษาที่2หรือ3มากขึ้น เพื่ออาจนำไปใช้ประโยชน์ในอนาคตได้ เช่น การเตรียมตัวสอบเข้าเรียน สอบเข้าทำงาน สอบวัดความรู้ระดับภาษา หรือแม้กระทั้งเอาไว้ใช้สำหรับการเพ่มเงินเดือนก็ได้ด้วยเช่นกัน และที่ดีที่สุดคือ เมื่อเรียนจบคอร์สและสอบผ่านการทดสอบ สามารถยื่นขอใบประกาศนียบัตร(Certificated) ไปไว้ใช้สมัครงานกันได้ด้วย โดยในวันนี้เรานำมาฝากด้วยกันทั้งหมด 3 คอร์ส ซึ่งเป็นคอร์สที่นักเขียนได้ไปลองเรียนมาแล้วดวยตนเอง บอกเลยว่าไม่ยาก ได้แก่ ไวยากรณ์และการออกเสียงภาษาอังกฤษ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยListening and Speaking for Communication จาก คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล First Step Korean จากมหาวิทยาลัยยอนเซ ประเทศเกาหลีไวยากรณ์และการออกเสียงภาษาอังกฤษ, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นคอร์สภาษาอังกฤษ โดยจะสอนในเรื่องเกี่ยวกับไวยากรณ์เบื้องต้น การออกเสียงในภาษาังกฤษ การเน้นเสียงและการออกเสียงคำที่มักจะออกเสียงผิด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาภาษาอังกฤษทั่วไป โดยในคอร์สนี้มีความยากไม่มาก จึงเหมาะสำหรับทุกช่วงอายุ ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเรียนได้ และเหมาะกับผู้ที่มีเวลาจำกัด บทเรียนในแต่ละบทเรียนใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้น โดยมีทั้งหมด 9 บทเรียน ได้แก่– EP 1 : Important Grammar Points– EP 2 : Tips for Error Identification #1– EP 3 : Tips for Error Identification #2– EP 4 : Tips for Error Identification #3– EP 5 : English Pronunciation: Problem Sounds– EP 6 : Word Stress #1– EP 7 : Word Stress #2– EP 8 : Word Stress #3– EP 9 : Linking Sounds เมื่อเรียนจบคอร์ส ผู้เรียนที่สอบได้คะแนนหลังเรียนมากกว่า 60%ขึ้นไป จะได้รับประกาศนียบัตร(Certificated) เข้าดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ CHULA MOOC หรือ https://mooc.chula.ac.th/Listening and Speaking for Communication จาก คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คอร์สนี้เป็นคอร์สที่มีความยากขึ้นมาจากคอร์สก่อนหน้า ใช้เวลาเรียนออนไลน์นานขึ้ โดยเวลาทั้งคอร์สจะอยู่ที่ 15 ชั่วโมง เนื้อหาเกี่ยวกับการฝึกฝนทักษะการฟังและการพูดในสถานการณ์ต่างๆในชีวิตประจำวัน การอภิปราย วัจนกรรม การตีความและวิเคราะห์ข้อความจากการสนทนา การบรรยายและการอ่านข้อความทางวิชาการ ข่าวสาร รายงานข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับการสื่อสารในชีวิตประจำวัน โดยมีเนื้อหาทั้งหมด 5 บทเรียน ได้แก่LO1 บอกใจความสำคัญ รายละเอียด และจุดมุ่งหมายของสิ่งที่ผู้พูดต้องการสื่อได้LO2 ออกเสียงพูดภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องLO3 สนทนาภาษาอังกฤษในบริบทที่หลากหลายได้LO4 ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้LO5 พูดต่อหน้าสาธารณชนได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ เมื่อเรียนจบคอร์ส ผู้เรียนที่สอบได้คะแนนหลังเรียนมากกว่า 50%ขึ้นไป จะได้รับประกาศนียบัตร(Certificated) เข้าดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ MOOC Mahidol หรือ https://mooc.mahidol.ac.th/First Step Korean จากมหาวิทยาลัยยอนเซ ประเทศเกาหลี สำหรับใครที่กำลังมองหาภาาที่3 และชื่นชอบในการดูซีรีส์เกาหลี หรือเป็นแฟนคลับไอดอลเกาหลี ต้องถูกใจคอร์สนี้เป็นอย่างมาก คอร์สนี้เป็นคอร์สสอบภาษาเกาหลีเบื้องต้น ตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับที่สามารถฟัง พูด อ่าน เขียน ได้เบื้อนต้น ครอบคลุม 4 ทักษะคือการอ่าน การเขียน การฟังและการพูด โดยมีเนื้อหาที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่นคำทักทาย แนะนำตัวเอง พูดคุยเกี่ยวกับครอบครัวและชีวิตประจำวันเป็นต้น แต่ละบทเรียนจะมีบทสนทนา การออกเสียงคำศัพท์ ไวยากรณ์ แบบทดสอบและการแสดงบทบาทสมมติ ที่สำคัญสอนโดยอาจารย์จากมหาวิทยาลัยยอนเซเป็นมหาวิทยาลัย Top3 ของประเทศเกาหลี ที่มีอัตราการแข่งขันสอบเข้าสูงมากๆ ใช้เวลาในการเรียนประมาณ 15 ชั่วโมง เนื้อหาบทเรียนของคอร์สนี้มีทั้งหมด 5บทเรียน ได้แก่1. Introduction The Korean Alphabet2. Greetings and Introducing3. Family4. Time and Date5. Daily Lifeโดยในแต่ละบทเรียน จะมีQuizให้ทำท้ายบทเรียน ถ้าเราสามารถทำคะแนนได้มากกว่า 60% ของทุกๆบท จะได้รับประกาศนียบัตร(Certificated) เข้าดูรายละเอียดได้ที่ https://www.classcentral.com/report/coursera-free-certificate-covid-19/ เรียกได้ว่าน่าสนใจมากๆสำหรับ 3 คอร์ส ที่นำมาฝากกันในวันนี้ สำหรับใครที่กำลังเบื่อๆกับการกักตัวอยู่บ้าน หรืออยากศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม แต่ไม่อยากออกไปเรียนนอกบ้าน การเรียนออนไลน์แถมได้ใบประกาศนียบัตรแบบนี้ ถือเป็นเรื่องที่เหมาะมากๆสำหรับสถานการณ์นี้เลย ใครที่สนใจ ลองไปติดตามรายละเอียดหน้าเว็บไซต์ของแต่ละคอร์ส แต่ละมหาวิทยาลัยกันได้เลย ขอบคุณภาพจากภาพปก/ภาพ1,2 และ3 โดยนักเขียน
etcetera • 17 มิ.ย. 63
อ่าน
"เมย์แบงก์" สแกน กลุ่ม Finance เปิดโผหุ้นเด่น-หุ้นดับ
#ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ส่อง หุ้นกลุ่ม Finance คาดว่า NIM ของกลุ่มธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค (Consumer Finance) จะลดลงเนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในปี 2566 ทั้งนี้ ผลประกอบการของทั้งกลุ่มน่าจะดีขึ้นหลังอัตราดอกเบี้ยนโยบายแตะจุดสูงสุด ผนวกกับคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นใน 2H66 ประเมินกำไรของทั้งกลุ่มเติบโต 11% YoY ในปี 2565 และ 12% ในปี 2566-67 จากการเติบโตของสินเชื่อและ NII ที่แข็งแกร่ง หุ้นเด่นของฝ่ายวิจัยยังคงเป็น ASK และ TIDLOR เนื่องจากมีแนวโน้มกำไรเติบโตแข็งแกร่งที่ 18-20% ในปี 2566 ความเสี่ยงที่สำคัญคือคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอกว่าคาด คงคำแนะนำ ขาย SAWAD เนื่องจากงบดุลอ่อนแอ ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์สูงขึ้น และ NPL Coverage ต่ำที่สุด สินเชื่อเติบโตดีแต่ NIM ลดลง ฝ่ายวิจัยคาดว่าความต้องการสินเชื่อจะดีขึ้นในไตรมาส 4/65 และปี 66 เนื่องจากเศรษฐกิจกลับมาและอัตราเงินเฟ้อสูง คาดว่าสินเชื่อจะเติบโต 22% และ 14% ในปี 65-66 ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้รายได้จากนายหน้าประกันภัยเติบโต โดยเฉพาะ TIDLOR และ ASK ที่เน้นปั้นรายได้จากทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ประเมินรายได้ non-NII ของ TIDLOR และ ASK ที่ 15-16% เทียบกับค่าเฉลี่ยของภาคธุรกิจที่ 6% ในปี 66 ในแง่ลบ NIM ของภาคธุรกิจน่าจะลดลง 60 bps YoY เป็น 15.8% ในปี 66 เนื่องจากต้นทุนการจัดหาเงินทุนจะเพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนใหญ่คงที่ คาดต้นทุนสินเชื่อทรงตัวจากคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอ จากอัตราเงินเฟ้อที่สูงส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของผู้มีรายได้น้อย (ลูกค้าหลักของภาคธุรกิจ) คาดว่าอัตราส่วน NPL ของกลุ่มจะเพิ่มขึ้น 21 bps YoY เป็น 3.11% ในปี 66 ดังนั้น ต้นทุนสินเชื่อน่าจะอยู่ที่ระดับ 3.7% ในปี 66 เทียบกับ 3.6% ใน ปี 65 โดยต้นทุนสินเชื่ออาจพุ่งแตะจุดสูงสุดในไตรมาส 2/66 และลดลงใน 2 ครึ่งหลังของปี 66 โดยคุณภาพสินทรัพย์ของ KTC และ TIDLOR ยังคงดีกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งกลุ่มธุรกิจ เนื่องจากอัตราส่วนสำรองหนี้สงสัยจะสูญ (LLR) ต่อ NPL ที่อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ของ SAWAD เนื่องจากสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ให้ผลตอบแทนสูงและความเสี่ยงสูงเพิ่มขึ้นผนวกการกลับรายการตั้งสำรอง ขณะที่ NPL coverage และ LLR ต่อ NPL ต่ำที่สุดในกลุ่มที่ 51% และ 1.4% ในไตรมาส 3/65 คาดกำไรเติบโต 12% YoY ในปี 66 ทั้งนี้ คาดกำไรของทั้งกลุ่มเติบโต 12% YoY ในปี 66 จากสินเชื่อและ NII โตแกร่ง โดย ASK และ TIDLOR น่าจะมีกำไรต่อหุ้นเติบโตสูงสุดที่ 18-20% จากการเติบโตของ NII และ non-NII ที่แข็งแกร่ง ส่วนกำไรของ SAWAD คาดว่าจะเติบโตต่ำสุดที่ 7% เนื่องจากต้นทุนสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ ROE ของทั้งกลุ่มจะลดลงเหลือประมาณ 19% ในปี 65-66 จาก 20-27% ในปี 61- 64 เนื่องจาก NIM ที่ลดลงและคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลง มองว่าความเสี่ยงด้านกฎระเบียบในภาคการเงินอยู่ในระดับต่ำหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุดสำหรับสินเชื่ออุปโภคบริโภคทุกประเภทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ทันหุ้น • 5 ม.ค. 66
อ่าน
เจาะหุ้น FINANCE เปิดข้อดี-เสีย ขยายผล “คุณสู้ เราช่วย”
#ทันหุ้น - บล.หยวนต้า ส่องหุ้นกลุ่ม FINANCE ครม.อนุมัติขยายผลของโครงการ คุณสู้ เราช่วย ให้ครอบคลุมลูกหนี้ของกลุ่ม Non Bank โดยมีประเด็นสำคัญ คือ 1) คาดผลกระทบเชิงลบต่อดอกเบี้ยรับจะน้อยกว่าธนาคารเพราะไม่ได้เป็นการลดให้ทั้งหมด 2) รายได้ที่สูญเสียไปจะได้รับชดเชยเป็น Soft Loan จากธนาคารออมสิน และ 3) หากลูกหนี้กลับมาชำระคืน จะทำให้รายได้หนี้สูญรับคืนเพิ่ม และสำรองรวมถึงผลขาดทุนจากการขายรถยึดต่ำลง คงน้ำหนักลงทุนในหุ้นกลุ่ม Non-Bank ที่ มากกว่าตลาด เพราะมองว่าอุตสาหกรรมผ่านจุดที่ยากลำบากไปแล้ว และผลดำเนินงานโดดรวมจะเริ่มฟื้นตัว หนุนจากทั้งมาตรการอัดฉีดเงิน 10,000 บาท ของภาครัฐฯ ทั้ง 3 เฟส, การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายที่ต่ำลง เลือก SAWAD (TP@50) เป็น Top Pick ของกลุ่ม คาดกำไรสุทธิ Q4/67 จะกลับมาโตทั้ง YoY และ QoQ ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำเก็งกำไร SCAP(Non-Rated) ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงสวนทางกับผลดำเนินงานที่คาดกำไรสุทธิ Q4/67 จะฟื้นตัวเด่นทั้ง YoY และ QoQ หลังผลขาดทุนจากการขายรถยึดปรับตัวลง และสำรองที่ผ่อนคลายลง MTC(TP@55) และ AEONTS(TP@153) ผลกระทบเชิงลบค่อนข้างจำกัด และมีปัจจัยช่วยชดเชยรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง คงคำแนะนำ ซื้อ
ทันหุ้น • 13 ก.พ. 68
อ่าน
ส่องกลุ่ม Finance หลังแบงก์ร่วมแข่งขัน ชู TIDLOR, MICRO หุ้นเด่น
ทันหุ้น-บล.โนมูระ พัฒนสิน ออกบทวิเคราะห์หุ้น Consumer Finance โดยได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิของกลุ่มปี 2566 ลง 1% จากการรุกตลาดสินเชื่อรายย่อยของธนาคารพาณิชย์ ทำให้การแข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นจึงคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อรวมน้อยกว่าที่คาด โดยระยะสั้นอาจมีความกังวลในเรื่องการรุกสินเชื่อรายย่อยของธนาคารพาณิชย์ ประกอบกับผลประกอบการไตรมาส 3/64 คาดว่ายังไม่น่าตื่นเต้น อย่างไรก็ตาม ยังคงคำแนะนำ BULLISH ต่อกลุ่ม เพราะคาดผลกระทบเรื่องการรุกตลาดสินเชื่อรายย่อยของ SCB ต่อกำไรสุทธิในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าน้อย คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 จนถึงปี 2566 กลับมาโตเด่น จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาดำเนินการมากขึ้น ทำให้คาดว่ารายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ซึ่งหุ้นเด่นของกลุ่มเลือกหุ้น TIDLOR แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 44 บาทต่อหุ้น และหุ้น MICRO แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 11.40 บาทต่อหุ้น ฝ่ายวิจัยมองว่าการปรับโครงสร้างและการรุกตลาดสินเชื่อรายย่อยของ SCB ทำให้การแข่งขันของกลุ่ม Consumer Finance ที่มีความรุนแรงอยู่แล้ว จะมีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของสินเชื่อรวม โดยสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก คือกลุ่มสินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทาง SCB มีแผนตั้งบริษัทย่อย Card X ทำธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน แม้ว่าเป็นผู้เล่นรายเดิม แต่ต่อยอดการเติบโตของพอร์ตเดิม มองว่าทำได้ไม่ยากซึ่งกลุ่มนี้จะกระทบกับ KTC และ AEONTS ส่วนกลุ่มที่สอง คือกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทาง SCB มีแผนตั้งบริษัทย่อย Auto X ทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียน และ Alpha X เป็นความร่วมมือกับ Millennium Group ทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับรถหรู ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ซึ่งกลุ่มนี้จะกระทบกับ SAWAD, MTC, TIDLOR และ THANI ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยมองว่าไม่กระทบต่อประมาณการกำไรสุทธิในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าอย่างมีนัยสำคัญ เพราะ ช่วงแรกยังอยู่ในช่วงการปรับโครงสร้าง และบริษัทรายเล็กจะได้รับผลกระทบก่อน อย่างไรก็ตามภาพระยะยาวมีความกังวลต่อการเติบโตของสินเชื่อรวมมากขึ้น ขณะเดียวกันมองว่าตลาดสินเชื่อรายย่อยมีโอกาสในการเติบโตอีกมากเพราะความต้องการสินเชื่อยังมีอยู่มาก
ทันหุ้น • 2 ต.ค. 64
อ่าน
แหวนแต่งงาน แหวนเพชร ที่ Jewel Impress เชียงใหม่ มี Certificate ระดับสากล GIA, HRD, IGI, AGS
การมองหาคนรักที่ดีนับว่าเป็นเรื่องที่ยากแล้ว แต่การมองหาร้านเพชรที่ดีและน่าเชื่อถือนั้นยากยิ่งกว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ กว่าคนสองคนจะมาเจอกัน พบรักกัน และจนถึงวันที่ตกลงปลงใจแต่งงานกัน เชื่อว่าเค้าทั้งสองจะต้องผ่านอุปสรรคความรักมามากมาย คงไม่มีใครที่จะมีชีวิตที่ราบรื่นไปซะทุกอย่าง และเราเชื่อว่า การตัดสินใจนี้เกิดจากความรักที่คนทั้งสองมีให้ต่อกัน วัฒนธรรมของเมืองไทยนั้น เมื่อมีการตกลงว่าจะแต่งงานกัน ก่อนงานแต่งตามธรรมเนียมต้องมีการหมั้นหมายกันไว้ก่อน และแหวนก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับพิธีนี้ ในส่วนของวันแต่งงาน บางคู่ก็จะมีแหวนสำหรับงานแต่งงานเพิ่มมาอีก แต่ในส่วนของทางศาสนาคริส เค้านิยมให้แหวนหมั้นในวันที่ฝ่ายชายคุกเข่าขอแต่งงานกับฝ่ายหญิง และเป็นการให้แหวนเพื่อแทนสัญลักษณ์ว่า เราทั้งสองจะมีพิธีแต่งงานกันในไม่ช้านี้ เพราะทันทีที่สวมแหวน หมายความว่าเธอคนนั้นตกลงที่จะร่วมใช้ที่ชีวตที่เหลือกับฉันคนนี้แล้วนั่นเอง " เพชร " เป็นอัญมณีที่คนทั่วโลกนิยมนำมาประดับไว้บนแหวนเพื่อแทนความรักให้กับคนที่เรารักในวันสำคัญ ซึ่งเป็นที่รู้ ๆ กันดีว่า เพชรนั้นเป็นอัญมณีที่มีค่ามาก เพราะเพชรมีความแข็งแกร่งจนสามารถนำมาตัดกระจกและวัสดุแข็งอื่น ๆ ได้ เพชรจึงเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง มุ่งมั่น และเมื่อวางไว้บนแหวนก็จะสื่อถึงความรักที่มั่นคง รักนิรันดร์ ยากที่ใครจะทำลายได้ การออกแบบแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานนั้นมีอยู่หลายรูปแบบ ที่นิยมกันอย่างเช่น แหวนชู คือแหวนที่มีเพชรเม็ดเดียว เด่น ๆ ให้เห็นตัวเพชรได้อย่างชัดเจน แหวนทรงนี้จะมักจะสื่อความหมายถึงความรักเดียวใจเดียว จะซื่อสัตย์ และมั่นคงต่อเธอผู้เดียว อีกแบบก็คือการออกแบบโดยฝังเพชรเล็ก ๆ ไว้รอบวงก็จะสื่อความหมายถึงความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุดไม่มีวันเสื่อมคลาย จะรักเธอไปตราบฟ้าชั่วดินมลาย หรือแหวนเพชร 3 เม็ด ต้องการสื่อถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ทำนองว่าความรักของเรานั้นเหนือกาลเวลา รักข้ามภพข้ามชาติ ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน ๆ ก็จะรักเพียงแต่คุณนั่นเอง เข้าใจว่าการจะเลือกซื้อแหวนเพชรสักวงไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งการเลือกหาแหวนแต่งงานที่เราจะมอบให้กับคนที่เรารัก คนที่เราตั้งใจจะอยู่ด้วยกันไปตราบจนวันตายนั้น ยิ่งต้องใช้ความพิถีพิถันในการเลือก เพราะองค์ประกอบในการตัดสินใจหลัก ๆ ก็คือความมั่นใจว่าเพชรที่เราเลือกนั้นจะเป็นเพชรแท้ ซึ่งตัวช่วยในการสร้างความมั่นใจนั่นก็คือใบเซอร์ หรือว่าใบการันตีเพชรนั่นเอง หากผู้ที่พอจะมีความรู้เรื่องเพชรอยู่บ้างคงจะรู้จักสถาบัน GIA และ สถาบัน GIT ซึ่ง GIA ย่อมาจาก Gemological Institute of America เป็นสถาบันอัญมณีหลักของประเทศสหรัฐอเมริกา และยังมีสำนักงานกระจายอยู่ทั่วไปตามแหล่งประเทศที่มีการผลิตอัญมณีหลัก ๆ ของโลกรวมถึงประเทศไทยโดยสำนักงานตั้งอยู่ที่ตึกอื้อจือเหลียง ถนนพระรามสี่ กรุงเทพมหานคร GIA ยังเป็นสถาบันที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในตลาดเครื่องประดับอัญมณี และส่วน GIT (Gemological Institute of Thailand) คือ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติเช่นเดียวกัน เป็นสถาบันของประเทศไทยคะ ตั้งอยู่ที่อาคารไอทีเอฟทาวเวอร์ ถนนสีลม หากคุณกำลังมองหาแหวนแต่งงาน แหวนหมั้น หรือแหวนเพชรเพื่อมอบให้เป็นของขวัญเนื่องในวันสำคัญต่าง ๆ กับคนที่คุณรัก เราขอแนะนำร้าน Jewel Impress เชียงใหม่ ร้านนี้เค้าได้รับรางวัลการันตีอย่างมากมาย และที่สำคัญคือเพชรที่ร้านนี้ มีใบการันตี Certificate ระดับสากล GIA, HRD, IGI, AGS และ GIT อีกด้วย คุณสามารถซื้อด้วยความมั่นใจ Buy with confidence จากกระทรวงพาณิชย์ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับ ร้าน Jewel Impress ได้รับตราสัญลักษณ์อันทรงเกียรตินี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกท่าน ว่าสินค้าทุกชิ้นเป็นสินค้าที่เชื่อถือได้ มีคุณภาพตามที่ระบุในใบรับรองคุณภาพสินค้าและอัญมณีและเครื่องประดับอย่างแน่นอน และเพราะมีอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย จึงมีกลุ่มนักเรียน นักศึกษา จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้ขอเข้ามาศึกษาดูงานการผลิตเครื่องประดับและอัญมณีอยู่บ่อยครั้ง ข้อมูลจาก Facebook ของทางร้าน (จะแปะลิ้งค์ไว้ให้ที่ในส่วนท้ายของบทความนะคะ) นอกจากนั้น หากคุณอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมออกแบบแหวนของตัวเองให้มีความเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ทางร้านก็ยินดีที่จะให้คุณได้มีส่วนร่วมนี้ เริ่มตั้งแต่การออกแบบด้วยโปรแกรมพิเศษ ไปขั้นตอนขึ้นรูป จนจบกระบวนการเป็นแหวนและสามารถเลเซอร์ตัวอักษรตามที่คุณต้องการ ก่อนที่จะส่งมอบแหวนเพชรเม็ดงามในแบบที่คุณได้เป็นคนออกแบบเอง ทั้งหมดนี้คุณสามารถจำกัดได้ว่าแหวนที่คุณต้องการนั้นจะอยู่ในวงเงินเท่าไหร่ตามที่คุณนั้นพึงพอใจ (่ ช่างดีต่อใจจริง ๆ คะ ) หากสนใจสามารถโทรไปพูดคุย สอบถามรายละเอียดได้เลยคะ พนักงานที่นี่ใจดีทุกคน สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 081-5313631 คุณจุ๊บ Line@ : @jewelimpress https://www.facebook.com/Jewelimpress/ ขอขอบคุณรูปภาพจากร้าน Jewel Impress ด้วยนะคะ
Just in case • 10 มี.ค. 63
อ่าน
สร้าง e-Certificate Online และส่ง Mail ถึงผู้รับง่ายๆ ด้วย AutoCrat
วันนี้มีโจทย์จากน้องๆ ที่ทำงานมาให้ช่วยอีกแล้ว "พี่ครับๆ ผมมีใบ Certificate อยู่ 150 ใบ อยากจะส่ง Mail ให้ผู้เข้าร่วมทุกคน แต่ถ้าทำทีละคนคงช้าใช้เวลาตั้งแต่เช้ายันเย็นแน่นอน มีวิธีการที่ง่ายกว่านั้นไหม" คำตอบของพี่คือ พี่เคยทำคะ ต้องมาทบทวนความรู้ตั้งแต่ปี 2015 กันนิดส์นึง มาใช้งาน Google Application กันเถอะ ทำ e-Certificate ก็ส่งออกโดยที่เราไม่ต้องมานั่งทำทีละไฟล์และส่งมีละคน กันดีกว่า ดังนั้นสิ่งที่จะต้องมี 3 อย่าง สำหรับการส่ง e-Certificate นี้ก็คือ 1. Google Sheet ที่ใช้เป็นฐานข้อมูลของชื่อ และ E-mail ที่ต้องการจะส่งออก 2. Google Doc ที่ใช้เป็นใบรูปแบบของใบ Certificate ตามที่เราต้องการ อาจจะประยุกต์ใช้ Google Slide ก็ได้ แต่ตอนนี้เราขอใช้ Google Doc 3. Autocrat เป็นส่วนขยาย หรือ Extenstions ที่ใช้คู่กับ Google Sheet ใช้สำหรับการ Merge ข้อมูล Google Doc และ Google Sheet เข้าด้วยกัน พร้อมทั้งทำการส่ง Mail ให้เมื่อมีการ Run คำสั่ง------ก่อนทำการสร้าง e-Certificate ต้องเตรียมข้อมูลดังต่อไปนี้ 1. Google Sheet ก็จะขอแสดงข้อมูลให้เห็นชัดที่สุด เราเตรียมข้อมูลดังต่อไปนี้ชื่อ เพื่อใส่ใน e-Certificate โดยตั้งชื่อคอลัมน์ว่า Name E-mail เพื่อใช้ในการจัดส่ง e-Certificate โดยตั้งชื่อคอลัมน์ว่า email ชื่อคอลัมน์นั้นสำคัญ เพราะจะต้องเอาไปใช้ใน Google Doc อีกครั้ง 2. Google Doc จัดเตรียมใบ Certificate ที่จัดทำแล้วเป็นภาพสวยงาม จัดลงหน้ากระดาษ นำภาพไปไว้ด้านหลังข้อความ และนำชื่อคอลัมน์ มาใส่เครื่องหมาย ชื่อคอลัมน์ เช่น ซึ่งเป็นการนำข้อมูลจาก Google Sheet มา Merge ข้อมูลจัดทำ e-Certificate 3. Autocrat เป็นส่วนขยาย หรือ Extenstions ที่ใช้คู่กับ Google Sheet ซึ่งต้องทำการติดตั้งก่อนใช้งาน และไปเปิด ------เมื่อเตรียมข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้เพื่อสร้าง e-Certificate และส่ง Mail 1. เปิดข้อมูล Google Sheet และเลือกเมนู Extenstions Autocrat Launch2. จะปรากฎหน้าต่าง Autocrat เลือก NEW JOB สามารถทำไปทีละขั้นตอนตามตัวช่วยที่ App มีให้ได้เลย 3. ขั้นตอนที่ 1 ตั้งชื่องานที่ Job name ตามที่เราต้องการเพื่อให้ง่ายต่อการทำงาน และกดปุ่ม Next เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป4. ขั้นตอนที่ 2 เลือก Template คลิกที่ปุ่ม From drive เพื่อเลือก Google Doc ที่เราออกแบบใบ Certificate ไว้ เลือก Certificate แล้วกดปุ่ม Select6. เมื่อกลับเข้าสู่หน้าจอหลักจะปรากฎ ชื่อของ Template ที่เราเลือกมาทำเป็น Certificate และให้กดปุ่ม Next เพื่อทำการไปขั้นตอนถัดไป 7. ขั้นตอนที่ 3 ทำการเลือกชื่อคอลัมน์ที่ต้องการแสดงผลใน Google Doc ให้ตรงกับ Google Sheet ที่เราตั้งไว้ เพื่อทำการ Merge ข้อมูลจัดทำเป็น e-Certificate โดยการเลือก ชื่อ Sheet ในช่อง Merge tab และเลือกชื่อคอลัมน์ในช่อง Map to Column8. ขั้นตอนที่ 4 ตั้งชื่อ File ของไฟล์ เช่น CER $name ที่เราจะทำการสร้างออกมา จะได้ชื่อไฟล์ในขั้นสุดท้าย (ข้อมูลเหล่านี้จะปรากฏใน Mail ที่ส่งไป) และเลือกชนิดของเอกสารที่ Type ส่วนใหญ่ในการส่ง Mail เรามักเลือกเป็น PDF และกดปุ่ม Next 9. ขั้นตอนที่ 5 เลือก Folder ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เมื่อทำในขั้นตอนสุดท้าย ข้อมูล e-Certificate จะถูกนำมาเก็บไว้ใน Folder ที่เลือก และทำการกดปุ่ม Next10. ขั้นตอนที่ 6 เป็นการถามถึง Folder ที่เกี่ยวข้อง แต่เราไม่ได้ใช้งาน สามารถกดปุ่ม Next ไปยังขั้นตอนถัดไปได้เลย 11. ขั้นตอนที่ 7 เป็นการตั้งเงื่อนไขต่างๆ เพิ่มเติมก่อนดึงข้อมูลมาแสดงผล เราไม่ได้ใช้งานเช่นกัน สามารถกดปุ่ม Next ไปยังขั้นตอนถัดไป12. ขั้นตอนที่ 8 เป็นขั้นตอนในการตั้งค่า ก่อนการส่ง Mail ออกไปยังผู้รับ ในหัวข้อ Share Doc? ตอบ Yes และเลื่อนลงไปด้านล่างที่ช่อง To ใส่ค่า Mail ผู้รับ $email (ชื่อตามชื่อคอลัมน์ที่เราตั้งไว้) Type in Subject คือการใส่หัวข้อของจดหมาย Type the message คือการใส่เนื้อความของจดหหมายที่ต้องการจะส่งไปยังผู้รับ13. ขั้นตอนที่ 9 ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการกำหนดการทำงาน การสร้างไฟล์ การส่ง Mail นั่นเองRun on form trigger เพื่อกำหนดการทำงานด้วยตนเอง ตอบ Yes จะปรากฎหน้าต่างเตือนขึ้นมาเล็กน้อย ตอบ Yes อีกครั้งRun on time trigger เพื่อกำหนดการทำงานโดยการตั้งเวลา ตอบ No เราจะได้คำสั่งในการสร้างไฟล์ และการส่ง Mail ตั้งค่าเสร็จก็ให้กดปุ่ม Save 14. เมื่อต้องการสร้างไฟล์ และส่ง Mail กดปุ่ม Runเพียงเท่านี้ โปรแกรมก็จะสร้างไฟล์ และ ส่ง Mail ให้ทันทีรับรองเลยว่าถ้ามีข้อมูลครบ ทำตามขั้นตอนที่แนะนำทั้งหมดก็จะสามารถสร้าง e-Certificate พร้อมส่ง Mail ได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งหากมี Mail ที่จำเป็นต้องส่งจำนวนมาก และข้อมูลเป็นชื่อที่ไม่ซ้ำกันจะช่วยลดระยะเวลาในการทำงานได้เป็นอย่างยิ่ง ----------ภาพประกอบบทความทั้งหมดมาจากภาพที่ผู้เขียนจับภาพหน้าจอนำมาตัดต่อใส่ข้อความด้วยตนเอง7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์
เที่ยวไม่ทิพย์ • 13 ก.ค. 66
อ่าน
"แก้ปรับหนี้นอกระบบ" กระทบหุ้น Finance แค่ไหน?
#ทันหุ้น - บล.ดาโอ ส่องหุ้น Finance มองเป็นกลางต่อการแถลงแนวทางการแก้หนี้นอกระบบ เนื่องจากเป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยและตลาดคาดว่า 1) ต้องอาศัยระยะเวลาในการจัดการตั้งแต่การไกลเกลี่ยเจรจาผ่านตัวกลางภาครัฐ การปรับโครงสร้างหนี้ลูกหนี้ให้เป็นธรรมตามกฎหมายที่ไม่คิดดอกเบี้ยเกิน 15% รวมทั้งการติดตามผลการช่วยเหลือลูกหนี้ไม่ให้กลับมาเป็นหนี้นอกระบบซ้ำ และ 2) มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ภายหลังที่เข้ามาอยู่ในระบบแล้วจะเป็นมาตรการช่วยเหลือของธนาคารรัฐที่ให้ความช่วยเหลือในปัจจุบันอยู่แล้ว ทั้งการให้สินเชื่อรายละไม่เกิน 50,000 บาท ไม่เกิน 5 ปี และการให้สินเชื่อสำหรับอาชีพอิสระ ประเมินผลกระทบจำกัดต่อผู้ประกอบการธุรกิจ Finance เนื่องจากฝ่ายวิจัยประเมินว่าผู้ประกอบการจะยังคงเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ, การติดตามหนี้ และการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อป้องกันปัญหาด้าน NPL และค่าใช้จ่ายสำรอง ที่อาจจะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะภายหลังการสิ้นสุดมาตรการฟ้าส้มในปี 2566E ที่ทำให้ผู้ประกอบการอาจจะไม่ได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือลูกหนี้ในแง่การจัดชั้น และการตั้งสำรอง เหมือนช่วง COVID ฝ่ายวิจัยจึงประเมินว่าผู้ประกอบการต่างๆ มีโอกาสที่จะเข้าร่วมช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบที่น้อย สำหรับกลุ่ม Finance ให้น้ำหนัก มากกว่าตลาด และ Top pick เป็น KTC (ซื้อ/เป้า 55.00 บาท) จากการเข้าสู่ช่วง high season และต่อเนื่อง Q1/67E จากผลบวก e-Refund Finance Overweight (maintained) ทั้งนี้ รัฐบาลแถลงเรื่องการแก้ปรับหนี้นอกระบบ วานนี้ (28 พ.ย.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงข่าว การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยมีรายละเอียดดังนี้ - กระทรวงมหาดไทย: จะใช้เครือข่าย และข้าราชการท้องถิ่น เช่น นายอำเภอ โดยให้อำนาจดำเนินการให้คู่พิพาททำสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยจะเปิดรับลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ ตั้งแต่วันที่ 1ธ.ค. สำหรับประชาชนที่เดือดร้อนถูกข่มขู่คุกคามหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม - กระทรวงการคลัง: จะดูแลลูกหนี้นอกระบบภายหลังที่มีการปรับโครงสร้าง หรือไกลเกลี่ย โดยจะมีธนาคารของรัฐดูแล อย่าง i. ธนาคารออมสิน ที่ปล่อยกู้ไม่เกิน 50,000 บาท/ราย ไม่เกิน 5 ปี และจะมีการให้สินเชื่อสำหรับอาชีพอิสระรายย่อยเพื่อส่งเสริมอาชีพ ให้กู้ไม่เกิน 100,000 บาท/ราย สูงสุดไม่เกิน 8 ปี ii. ธ.ก.ส. มีให้การสินเชื่อที่ดินขายฝาก หรือติดจำนองที่เกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ทาง ธ.ก.ส. จะมีวงเงินให้กับเกษตรกรต่อราย 2.5 ล้านบาท ในการแก้ไขเรื่องที่ดินทำกิน ทั้งนี้จะมีการแถลงเรื่องภาพรวมหนี้แบบครบวงจร ซึ่งจะครอบคลุมทั้งหนี้ในระบบ และหนี้นอกระบบอีกครั้งในวันที่ 12 ธ.ค.
ทันหุ้น • 29 พ.ย. 66
อ่าน
เจาะหุ้นเด่น-ดับ "กลุ่ม Finance" หลังราคาพุ่งเกินแนวโน้มการฟื้นตัว
#ทันหุ้น - บล.บัวหลวง เจาะหุ้น กลุ่ม Finance ออก IDEA call Downgraded Sector จาก เท่ากับตลาด เป็น น้อยกว่าตลาด เนื่องจากประเมินว่าคุณภาพสินทรัพย์ของกลุ่ม Retail Finance จะฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย ขณะที่ราคาหุ้น SAWAD และ TIDLOR ปรับเพิ่มขึ้น 41% และ 23% ตามลำดับ นับตั้งแต่ 15 ส.ค. 24 จนใกล้ ราคาเป้าหมายแล้ว จัวหวะขาย SAWAD-TIDLOR ลงทุน MTC ด้านปัจจัยพื้นฐาน มองเป็นจังหวะในการขายทำกำไร SAWAD และ TIDLOR เพราะมองว่ายังไม่ได้มี catalyst ที่โดดเด่นในระยะสั้น และ Switch มาลงทุนใน MTC เพราะประเมินว่าในช่วงที่เหลือของปี ตลาดน่าจะหันมามองหุ้นที่มีคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ แนวโน้มการเติบโตของกำไรของ MTC จะโดดเด่นสุดในปี 2567-68 อีกด้วย โดยฝ่ายวิจัยคาดว่า NPLs/Loans ของ MTC ใน Q3/67 จะดีขึ้น เพราะเน้นกลุ่มจำนำทะเบียนรถ ซึ่งระดับความเสี่ยงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการเช่าซื้อจักรยานยนต์ใหม่ของคู่เทียบ ซึ่งจะทำให้แนวโน้ม NPLs/Loans โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ โดย KTC SAWAD TIDLOR ฝ่ายวิจัยยังไม่คิดว่าแนวโน้มจะลดลงอย่างมีนัยฯ ใน Q3/67 เพราะลูกค้าไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต หรือ เช่าซื้อจักรยานยนต์ใหม่ยังฟื้นตัวช้า และการสำรองยังสูงต่อ
ทันหุ้น • 5 ก.ย. 67
อ่าน
"Thai MOOC" เรียนออนไลน์ฟรี! มีใบ Certificate รับรองด้วย!
หากคุณอยากเรียนหนังสือ แต่เงินที่เก็บไว้ไม่พอค่าเทอมหากคุณอยากได้ความรู้ แต่ไม่อยากไป (ขี้เกียจ?) เข้าห้องเรียนหากคุณทำงานประจำ แต่ก็อยากเสริมทักษะใหม่ ๆ โดยไม่กระทบกับหน้าที่การงานหากคุณเป็นบุคคลในวัยเกษียณ แต่ก็ไม่อยากหยุดที่จะเรียนรู้ หากคุณมีเวลาว่างและอยากเป็นนักสะสมใบ Certificateภาพถ่ายโดย Lizandro Flores จาก Pexels ผู้เขียนอยากจะเชิญชวนทุกท่านไปทำความรู้จักกับห้องเรียนออนไลน์ฟรี! ที่เรียนได้ด้วยตัวเอง เรียนเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เราสะดวก เพียงแค่คุณมีคอมพิวเตอร์หรือโน๊คบุ๊คและมีอินเตอร์เน็ต แล้วคลิกไปที่เว็บไซต์ https://thaimooc.org/ หรือ "Thailand Massive Open Online Course (Thai MOOC)" คุณจะได้พบกับคอร์สเรียนหลากหลายวิชาจากครูผู้สอนหลากหลายสถาบันที่พร้อมเสิร์ฟความรู้ถึงที่! เพียงแค่คุณนั่งเรียนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊ค (โห อะไรจะสะดวกเบอร์นี้) หลายคนอาจจะยังไ่ม่รู้จักห้องเรียนออนไลน์นี้ จากการที่ผู้เขียนได้ลองเข้าไปเรียนออนไลน์ตามรายวิชาที่ผู้เขียนสนใจและได้ใบ Certificate มาครอบครอง รู้สึกดีแบบ "เฮ้ยแก เราเรียนคอร์สนี้จบแล้วนะ เราสอบผ่าน เราทำได้ เราได้ใบ Certificate แล้วด้วย" จึงอยากมาแบ่งปันสิ่งดี ๆ เพราะการศึกษาคือสิ่งที่ทุกคนควรมีนะจ๊ะภาพจาก https://thaimooc.org/ "Thailand Massive Open Online Course" เรียกย่อ ๆ ว่า "Thai MOOC" คือการศึกษาแบบเปิดเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีิวิต ที่ให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเรียนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยไม่มีการเก็บค่าลงทะเบียนเรียน ไม่ต้องสอบเข้า ไม่จำกัดจำนวนรับ เป็นโครงการภายใต้นโยบายสำคัญของรัฐบาล การศึกษาระบบเปิดที่เกิดจากความร่วมมือของ "โครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย" "สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ" และ "กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม" โดยมีสถาบันการศึกษา ผู้เชี่ยวชาญจากสาขาอาชีพนั้น ๆ และหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันพัฒนารายวิชาและจัดการเรียนการสอน ยกตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ฯลฯ มีวิชาให้เลือกเรียนกว่า 330 รายวิชา ยกตัวอย่างเช่น ด้านการแพทย์และพยาบาล ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านเทคโนโลยี ด้านภาษา ด้านจิตวิทยา ด้านสังคมศาสตร์ ด้านการถ่ายภาพ ด้านนิเทศศาสตร์ ด้านการทำสื่อต่าง ๆ ด้านบริหารธุรกิจ ด้านการเงิน ด้านกฎหมาย ด้านการออกแบบ ด้านเกษตร ด้านสาธารณสุข และอีกหลากหลายด้านที่น่านำมาเสริมทักษะให้แก่ตัวเอง เป็นการเรียนแบบการจัดเรียง content โดยมีสื่อวิดีโอเป็นหลัก มีกิจกรรมการเรียนที่เหมือนกับในห้องเรียนจริง ๆ เช่นการ discuss ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน หรือกับผู้เรียนด้วยกันเอง ทำให้ผู้เรียนได้รับมุมมองที่มาจากหลากหลายความคิดเห็น มีการเก็บคะแนนผ่านการทำบททดสอบหลังบทเรียนและข้อสอบวัดความรู้หลังเรียน ส่วนใหญ่เกณฑ์การผ่านอยู่ที่ 70% ขึ้นไปถึงจะได้ใบ Certificate (บางวิชาก็ 60% แล้วแต่รายวิชา) เราจะเรียนกี่วิชาก็ได้ แล้วแต่เราเลย จะเรียนหมดทุกวิชาเลยก็ได้ถ้าไหว (โอ้ววว คิดภาพได้ใบ Certificate 330 ใบ) ภาพจาก https://thaimooc.org/ การเรียนใน Thai MOOC มีหลายแบบ 1.ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ตามความสนใจ โดยไม่ต้องทดสอบความรู้ เนื่องจากไม่ต้องการนำผลการเรียนไปใช้ประโยชน์ใด ๆ2.ผู้เรียนที่ต้องการเก็บประวัติและผลการเรียนเพื่อไปใช้ประโยชน์ เช่น นำไปเทียบโอนเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษา นำไปใช้เป็นหน่วยกิตในหลักสูตรที่เรียน หรือเก็บประวัติและผลการเรียนเพื่อเสนอหัวหน้างานและหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อเลื่อนตำแหน่ง เพื่อต่ออายุใบประกอบวิชาชีพ หรือเพื่อการสมัครงานประวัติและผลการเรียนรู้ของทุกคนจะถูกจัดเก็บอย่างต่อเนื่องในฐานข้อมูลประวัติการเรียนรู้และธนาคารหน่วยกิต โดยมีหน่วยงานด้านการศึกษาภายใต้กระ่ทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ดูแลควบคุมภาพจาก https://www.pexels.com/th-th/photo/301920/ ในขณะที่เขียนบทความนี้ ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤติโรค COVID-19 ระบาด รัฐประกาศเคอร์ฟิว ทำให้สถาบันการศึกษา ทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต้องปิดชั่วคราว แต่การศึกษาจะหยุดชะงักไม่ได้ ระบบการศึกษาจึงต้องเปลี่ยนจากการเรียนในห้องเรียนมาเป็นเรียนในระบบออนไลน์ สำหรับใครที่เพิ่งรู้จัก Thai MOOC จากการอ่านบทความนี้แล้วรู้สึกสนใจนะ มามะ อยากให้ลองเข้าไปเรียนดู แล้วจะได้รู้ว่า..เรียนฟรี มีอยู่จริง และสามารถติดตามบทความเกี่ยวกับแหล่งเรียน Online ฟรีอื่น ๆ ได้ โดยคลิกที่ https://bit.ly/2LI0hpw
ตะวันซันชายน์ • 19 พ.ค. 63
อ่าน
เรียนออนไลน์กับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกยังไง ให้ได้ Certificate ฟรี!
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้หลายๆหน่วยงานมีความจำเป็นต้อง Work from Home ซึ่งจะทำอย่างไรให้การทำงานที่บ้านของเราไม่สูญเปล่าทั้งยังสามารถใช้เวลาช่วงนี้พัฒนา Skill ตามความสนใจของตัวเอง หรือเพื่อพัฒนาทักษะทางอาชีพ นอกจากเรียนฟรีแล้ว ยังได้ Certificate ฟรีอีกด้วยคอร์สเรียนต่างๆ นั้นมีหลากหลายความต้องการจากสถาบันชั้นนำระดับโลก อย่างเช่น Yale University , University of Pennsylvania และอีกมากมายจากเว็บไซด์ https://www.coursera.org/ ซึ่งคอร์สนั้น มีหลากหลายให้เลือก เช่น คอร์สภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน (English for Career Development), คอร์สการเขียนโปรแกรมออนไลน์ เช่น Computer Science: Programming with a Purpose รวมไปถึงคอร์สทางด้านภาษาอย่างเช่น Chinese for Beginners จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศจีน อย่าง Peking University ซึ่งการเข้าเรียนคือ คอร์สที่เราเลือกนั้นจะบอกระยะเวลาในการเรียนออกเป็นสัปดาห์ (Week) ซึ่งเราจะต้องทำแบบทดสอบของแต่ละบทให้ทันก่อนหมดเวลาที่หลักสูตรกำหนดไว้ สำหรับบางท่านที่มีเวลาก็สามารถเรียนต่อเนื่องได้เลย จะทำให้จบคอร์สการเรียนได้ไวขึ้น โดยในแต่ละสัปดาห์การเรียนจะแบ่งออกเป็นการฟังบรรยายจากอาจารย์ประจำหลักสูตร, การอ่านบทความประกอบเนื้อหา และการทำแบบทดสอบ (Quiz) ซึ่งการทดสอบนั้นมีหลากหลายตั้งแต่การเลือกคำตอบที่ถูกต้อง, ข้อสอบแบบบรรยาย ซึ่งถ้าเป็นคอร์สทางด้านภาษาจะมีแบบทดสอบการฟังเพิ่มมาอีกด้วยภาพจากผู้เขียนโดยปรกติในคอร์สส่วนใหญ่นั้นเราสามารถเข้าเรียนได้ฟรีแบบไม่ได้รับ Certificate หรือหากต้องการ Certificate จะต้องเสียค่าใช้จ่ายราวๆ 49 USD แต่วันนี้เรามีเคล็ดลับการลงเรียนแบบไม่มีค่าใช้จ่ายพร้อมได้ Certificate ไปอวดเพื่อนกันนั้นก็คือเข้าไปที่เว็บไซด์ https://www.coursera.org/ แล้วค้นหาด้วยคำว่า “free certificate courses” เราจะพบกับคอร์สที่กำลังเปิดให้เรียนฟรีๆ พร้อม Certificate แต่คอร์สฟรีนี้มีเงื่อนไขที่ว่าต้องเรียนให้จบภายใน 7 วัน เราถึงจะได้ใบ Certificate หากเกิน 7 วันแล้วเราต้องการที่จะเรียนต่อก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมภาพที่ 2,3 จากผู้เขียนในช่วงเวลาที่เราไม่สามารถออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 การเรียนออนไลน์นับเป็นทางเลือกนึงในการพัฒนาทักษะของเรา ทั้งในด้านอาชีพและภาษาอังกฤษ นอกจากเรียนฟรีและมหาวิทยาลัยชั้นนำแล้วยังได้ Certificate ฟรีๆไปอวดเพื่อนหรือหัวหน้าได้อีกด้วย และสามารถติดตามบทความเกี่ยวกับแหล่งเรียน Online ฟรีอื่น ๆ ได้ โดยคลิกที่ https://bit.ly/2LI0hpw
Melisandre • 19 พ.ค. 63
อ่าน
#Stayhome แบบมีคุณภาพ ชวนเรียนออนไลน์พร้อมได้ใบCertificatesฟรี!!!!
สวัสดีค่ะคุณนักอ่านทุกท่าน ช่วงนี้หลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยเราเองกำลังอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID19 และภายใต้มาตรการการรับมือกับเจ้าไวรัสนี้นั่นก็คือ Social Distancing หรือการเว้นระยะห่างทางสังคมใช่มั้ยละคะ ทำให้หลายๆคนต้อง #stayhome กัน สำหรับบทความนี้เกิดขึ้นได้เนื่องจากผู้เขียนเองก็ต้องอยู่บ้านเช่นเดียวกันค่ะ และขณะกำลังเลื่อนฟีดข่าวใน Facebook ก็ได้มีเพื่อนๆแชร์ข้อมูลสำหรับเว็บไซต์เรียนออนไลน์พร้อมกับจะได้ใบประกาศเพื่อไว้รับรองว่าเราได้เคยเข้าร่วมการเรียนในคอร์สนี้แล้วมาอย่างฟรี ๆ อีกด้วย แน่นอนค่ะเมื่อกิจกรรมยามว่างที่ผู้เขียนทำเป็นประจำอย่างการดูซีรี่ส์หรือภาพยนตร์ไม่น่าสนใจอีกต่อไป นี่จึงถือเป็นโอกาสอันดีในการเพิ่มพูนความรู้ในช่วงวันหยุดที่แสนยาวนานแบบนี้ด้วยค่ะ “Coursera” พูดง่ายๆก็คือเว็บไซต์สำหรับการเรียนออนไลน์ที่เต็มไปด้วยเนื้อหาวิชาหลากหลายด้าน เช่น Language Learning, Data Science, Business, Personal Development, Arts and Humanities เป็นต้น จากมหาวิทยาลัยชื่อดังทั่วโลกรวมไว้ที่นี่เพื่อให้เราได้เรียนรู้เนื้อหาผ่านทางออนไลน์ได้ตลอดไม่ว่าจะวันใดหรือเวลาใด ซึ่งโดยปกติจะมีคอร์สเรียนที่เปิดให้เราได้เรียนกันแบบฟรี ๆ แต่หากใครอยากได้ใบ Certificates มาเก็บไว้สำหรับต้องการนำไปประกอบผลงานหรือใส่ใน Portfolio ก็อาจจะต้องจ่ายเงินในราคา 49$ หรือในราคาอื่นแล้วแต่วิชาค่ะแต่!!!! ในช่วงนี้ค่ะ Coursera ใจดีเปิดบางคอร์สให้เราได้เรียนฟรีพร้อมทั้งยังได้ใบ certificatesแบบฟรีๆอีกด้วย (ขอย้ำว่าเป็นบางคอร์สนะคะ สำหรับใครที่อยากรู้ว่ามีคอร์สไหนบ้างสามารถคลิกไปดูได้ตามลิงค์นี้เลยค่ะ https://www.classcentral.com/report/coursera-free-certificate-covid-19/ ) ช่วงเวลาดังกล่าวนี้มีระยะจำกัดนะคะ โปรโมชั่นนี้สิ้นสุดถึงแค่วันที่ 31 พฤษภาคม 2020 เท่านั้น อย่ามัวรอช้าค่ะรีบไปหาดูคอร์สที่น่าสนใจสำหรับเรากันเร็ว!สำหรับวิธีการสมัครเรียนเมื่อเพื่อน ๆ เลือกคอร์สที่จะเรียนได้แล้ว (โดยเลือกจากหน้าเว็บลิงค์ที่ให้ไว้ข้างบนนะคะ) ให้เพื่อนคลิกที่ลิงค์วิชานั้นๆค่ะ เมื่อเข้ามาแล้วให้เพื่อน ๆ คลิกที่ปุ่ม Go to Class จากนั้นจะพบกับหน้าเว็บนี้เพื่อให้เราคลิกสมัครค่ะ ให้เพื่อนๆคลิกที่ปุ่ม Enroll For Free แล้วจะมีป๊อปอัพเด้งขึ้นมาสำหรับคนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ก็ให้เพื่อน ๆ ลงทะเบียนให้เรียบร้อยจากนั้นก็ทำการ Log in เพื่อเข้าสู่ระบบ ขั้นต่อตอนมาจะมีป๊อปอัพเด้งขึ้นมาถามเราว่าต้องการใบCertificatesด้วยหรือไม่ ให้เพื่อนๆเลือกอันแรกนะคะ ตรง Purchase Course (หากไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาโปรโมชั่นที่ได้กล่าวถึงในตอนแรกให้เลือกแบบ Audit Onlyนะคะ ตรงนี้คือจะเรียนฟรีอย่างเดียวไม่ได้ใบ Certificates ค่ะ) จากนั้นก็คลิกที่ปุ่ม Continue จากนั้นจะเข้าสู่หน้าที่บอกรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายค่ะ จะเห็นว่าเราจะได้รับส่วนลด 100% กันเลยทีเดียวก็คือไม่ต้องเสียเงินเลยซักบาท (แต่สำหรับใครที่นำไปสมัครในวิชาอื่นแล้วขึ้นหน้าเว็บให้กรอกข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคารไว้สำหรับตัดเงินผ่านบัตรอันนี้คือไม่ฟรีแล้วนะจ๊ะ) เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็กด Pay Now เลยค่ะ ต่อจากนี้ก็จะเข้าสู่หน้าหลักของรายวิชานั้น ๆค่ะ โดยอาจารย์ผู้สอนจะมาทักทายแล้วก็แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการเรียนการสอนไว้หมดเลย เมื่อเพื่อน ๆ พร้อมเรียนแล้วก็กดที่ปุ่ม Start เพื่อเข้าสู่บทเรียนได้เลย ส่วนตัวผู้เขียนนั้นได้ลองเรียนในรายวิชา First Step Korean จากYonsei University แล้วต้องขอบอกเลยว่าอาจารย์สอนเข้าใจและใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้เป็นอย่างดีค่ะ โดยเมื่อแล้วเรียนจบในแต่ละบทจะมีการทดสอบเล็ก ๆ ท้ายบทด้วย ถือว่าไม่ยากจนเกินไปข้อสอบออกตามที่อาจารย์สอนเลย นอกจากนี้ผู้เขียนขอแนะนำคอร์สที่น่าสนใจอื่น ๆด้วยค่ะ อย่างเช่น Chinese For Beginners, Tricky American English Pronunciation, The Truth About Cats and Dogs เป็นต้น สำหรับใครที่ได้ไปลองเรียนแล้วอย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์กันนะคะ และสามารถติดตามบทความเกี่ยวกับแหล่งเรียน Online ฟรีอื่น ๆ ได้ โดยคลิกที่ https://bit.ly/2LI0hpwอ้างอิงภาพ ภาพปกจาก Facebook : Coursera / ภาพ 1 จาก Facebook : Coursera / ภาพ 2 : Coursera / ภาพ 3 : Coursera / ภาพ 4 : Coursera / ภาพ 5 : Coursera / ภาพ 6 : Coursera
Bimthaa • 19 พ.ค. 63
อ่าน
ลุยเดี่ยวกับสาวผมบลอนด์สุดสวยกับเกม Tekken's Nina Williams in Death by Degrees
ใครจะไปคิดว่าตัวละครสาวสุดเซ็กซี่อย่าง Nina Williams จากเกมต่อสู้ชื่อดังอย่าง Tekken จะมีเกมภาคแยกของตัวเองกับเขาด้วย! กับเกม Death by Degrees ที่วางจำหน่ายบน PlayStation 2 เมื่อปี 2005 เกมนี้พาเราออกจากสังเวียนหมัดมวย ไปลุยเดี่ยวในภารกิจสายลับสุดระห่ำแบบเต็มตัว บอกเลยว่าตอนนั้นตื่นเต้นมาก เพราะเป็นแฟนตัวยงของ Nina อยู่แล้ว แถมตัวเกมยังดูมีกลิ่นอายแบบ Resident Evil ผสม Metal Gear Solid ที่ชอบอีกต่างหาก พอได้ลองเล่นจริงๆ แล้วจะเป็นยังไง มาติดตามกันเลย! เนื้อเรื่อง ใน Death by Degrees เราจะได้รับบทเป็น Nina Williams สายลับสาวจากหน่วยงานลับที่ถูกส่งไปแทรกซึมเข้าไปในเรือสำราญสุดหรูที่ชื่อว่า Amphitrite เพื่อสืบหาอาวุธชีวภาพที่ชื่อว่า "Salacia" เนื้อเรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้ในยุคนั้น มีการหักมุมนิดๆ หน่อยๆ พอให้เซอร์ไพรส์บ้าง แต่ที่ชอบคือการเล่าเรื่องผ่านคัตซีนที่ทำออกมาได้สวยงามในยุคนั้น CG อาจจะดูแข็งๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ขัดหูขัดตาอะไรมากนัก เสียดายที่เนื้อเรื่องไม่ได้เชื่อมโยงกับภาคหลักของ Tekken เท่าไหร่ ทำให้แฟนๆ ที่หวังจะเห็น Easter Egg หรือ Lore ต่างๆ อาจจะผิดหวังเล็กน้อย เกมเพลย์ มาถึงหัวใจหลักของเกมกันบ้าง ระบบการเล่นของ Death by Degrees เป็นแนว Action-Adventure ที่ผสมผสานการต่อสู้แบบประชิดตัวเข้ากับการลอบเร้นและไขปริศนาเล็กๆ น้อยๆ ในส่วนของการต่อสู้ ต้องบอกว่าทำออกมาได้ค่อนข้างแปลกใหม่ในยุคนั้น ด้วยระบบ "Critical Strike" ที่ให้เราเล็งโจมตีจุดตายของศัตรูแบบเจาะจง ไม่ว่าจะเป็นการเตะผ่าหมาก จิ้มตา หรือกระทุ้งคอ ซึ่งแต่ละจุดจะมีท่าโจมตีและเอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันออกไป ช่วงแรกๆ ที่เล่นก็รู้สึกสนุกดี ได้ลองกดท่าต่างๆ แต่พอเล่นไปนานๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าระบบนี้มันค่อนข้างยุ่งยากและไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่ โดยเฉพาะเวลาเจอศัตรูรุม หลายครั้งที่กะจังหวะกดท่าไม่ถูก ทำให้โดนรุมยำเละ แถมมุมกล้องในเกมก็ค่อนข้างมีปัญหา บ่อยครั้งที่หมุนมุมกล้องไม่ทัน จนมองไม่เห็นศัตรู ส่วนระบบลอบเร้นก็ทำออกมาได้กลางๆ ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีมาก มีช่วงที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ บ้าง แต่ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย ส่วนใหญ่ก็แค่เดินหลบหลังกำแพง หรือคลานผ่านช่องแอร์ ปริศนาในเกมก็ไม่ได้ยาก ส่วนใหญ่เป็นปริศนาง่ายๆ อย่างเช่น การหาของมาไขกุญแจ หรือการกดสวิตช์ตามลำดับ โดยรวมแล้ว เกมเพลย์ของ Death by Degrees ถือว่าสอบไม่ค่อยผ่านเท่าไหร่ ระบบการต่อสู้ที่ดูน่าสนใจในตอนแรก กลับกลายเป็นจุดอ่อนของเกม แถมมุมกล้องกับระบบลอบเร้นก็ยังทำออกมาได้ไม่ดีพอ กราฟิก ในยุค PlayStation 2 กราฟิกของ Death by Degrees ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเค ตัวละคร ฉาก และเอฟเฟกต์ต่างๆ ทำออกมาได้สวยงามในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะโมเดลของ Nina ที่ดูสวยงามและเซ็กซี่ (แอบมีฉากเซอร์วิสแฟนๆ เล็กๆ น้อยๆ ด้วยนะ) แต่ก็อย่างว่า เกมนี้ก็มีอายุเกือบ 20 ปีแล้ว ถ้าเทียบกับเกมยุคนี้ กราฟิกก็คงดูโบราณไปหน่อย เสียง เสียงประกอบและเพลงประกอบในเกมทำออกมาได้ดี ช่วยเพิ่มอารมณ์ความตื่นเต้นให้กับเกมได้เป็นอย่างดี เสียงพากย์ของตัวละครก็ถือว่าโอเค แต่แอบขัดใจเสียงพากย์ภาษาอังกฤษของ Nina นิดหน่อย รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเข้ากับบุคลิกของเธอเท่าไหร่ สรุป Tekken's Nina Williams in: Death by Degrees เป็นเกมที่น่าผิดหวังสำหรับผม แม้จะมีไอเดียที่ดี แต่ระบบการเล่นที่ยุ่งยาก มุมกล้องที่แย่ และเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยน่าสนใจ ทำให้เกมนี้ไม่สนุกอย่างที่คิด ถ้าคุณเป็นแฟน Tekken และอยากรู้จัก Nina มากขึ้น ก็อาจจะลองเล่นดูได้ แต่ถ้าคุณหวังว่าจะได้เล่นเกมแอ็กชันสุดมันส์ ผมแนะนำให้มองหาเกมอื่นดีกว่า คะแนน 6/10 ข้อดี กราฟิกสวยงามในยุคนั้น เสียงประกอบและเพลงประกอบทำได้ดี ฉากแอ็กชันบางฉากทำออกมาได้น่าตื่นเต้น ข้อเสีย ระบบการต่อสู้ยุ่งยากและไม่ลื่นไหล มุมกล้องมีปัญหา เนื้อเรื่องไม่ค่อยน่าสนใจ ระบบลอบเร้นยังทำได้ไม่ดีพอ หมายเหตุ: นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ประสบการณ์ในการเล่นเกมของแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
jjonline5581 • 23 พ.ย. 67
อ่าน
บล.บัวหลวง เปิดประเด็นสำคัญ 10 บจ. กลุ่ม Bank-Finance หลังประชุมนักวิเคราะห์
ทันหุ้น - บล.บัวหลวง ส่องพื้นฐาน VGI-TVO-SIRI-RS-PTT-ORI-CRC-BCP-BANPU-BPP กลุ่ม Bank และ Finance มุมมองหลังจากประชุมนักวิเคราะห์ ดังนี้ **บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI มุมมองออกมา เป็นกลาง โดยใน Q2/64 (ก.ค.-ก.ย.) ยังได้รับอานิสงส์จาก Early bird และการฟื้นตัวของ MACO ด้านต้นทุน โดย MACO มีการเจรจาต่อรองกับเจ้าของพื้นที่สนามบินในมาเลเซีย โดยสัญญาใหม่ค่อนข้างน่าพอใจ Fanslink จะมีการรวมงบเข้ามา 8 เดือนในปีบัญชีนี้จะทำให้รายได้สูงขึ้น แต่ไม่ได้ส่งผลต่อกำไรอย่างมีนัยยะสำคัญ คำแนะนำพื้นฐาน ยังคงมองว่า VGI จะยังประคองตัวได้ในไตรมาสนี้ และการฟื้นตัวจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ COVID-19 และการฉีดวัคซีนในประเทศไทย **บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO มุมมองที่แย่ลงกว่าที่เคยคาดเดิมสำหรับผลประกอบการใน 2H64 โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GM) มีแนวโน้มอ่อนตัวลงไปมากกว่าที่เราเคยคาดก่อนหน้า ซึ่งผู้บริหารมองว่า GM ใน 2H64 อาจไม่ถึงตัวเลขสองหลัก บวกกับการปิดโรงงานซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ 1 เดือนใน Q4/64 จะเป็นปัจจัยลบที่จะส่งผลให้กำไร 2H64 อ่อนตัวจากที่เคยคาด คำแนะนำพื้นฐาน มองว่ากำไรสุทธิของ TVO ใน Q3/21 มีแนวโน้มต่ำกว่าที่เราเคยคาดก่อนหน้าที่ 600 ล้านบาท ในขณะที่กำไรสุทธิใน Q4/64 มีแนวโน้มลดลงจากที่เคยคาดก่อนหน้าจากการปิดซ่อมบำรุง 1 เดือนซึ่งจะส่งผลให้ทั้งวอลุ่มขายกากถั่วเหลืองและ GM ใน Q4/64 อ่อนตัวลงจาก Q3/64 บวกกับ GM ที่ผู้บริหารมองว่าไม่น่าจะถึงตัวเลขสองหลักใน 2H64 (ซึ่งแย่กว่าที่เราเคยคาดก่อนหน้าว่าน่าจะอยู่ในช่วง 11-13%) มองว่ากำไรสุทธิของเรา ณ ปัจจุบันที่ 2.59 พันล้านบาทสำหรับปี 2021 มีแนวโน้มปรับลดลงเหลือ 2.2-2.3 พันล้านบาท เราอยู่ระหว่างปรับประมาณการกำไรสุทธิของ TVO สำหรับปี 2021-22 และอยู่ระหว่างการทบทวนคำแนะนำหุ้น TVO **บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI มองเป็นบวก โดยผู้บริหารประเมินแนวโน้ม presales ยังทรงตัวได้ใน Q3/64, อัตรากำไรขั้นต้น (GP) ที่จะยืนในระดับปกติได้แล้ว และมั่นใจต่อเป้าหมายยอดขาย-ยอดโอนทั้งปี 2564 ซึ่งหมายถึงจะมี Upside ราว 10% ต่อประมาณการกำไรหลักปี 2564 ที่ 1.86 พันล้านบาท (ใกล้เคียงกับตลาด) คำแนะนำพื้นฐาน คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 1.6 บาท โดยมองการฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติของธุรกิจอสังหาฯ ทั้งโครงการที่เปิดตัวใหม่ผลตอบรับดี และอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นมาปกติ รวมทั้งโอกาสปรับประมาณการกำไรจากทั้งเราและตลาด ราคาหุ้นจะตอบรับในเชิงบวกได้มากกว่านี้ เนื่องจากปัจจุบันที่ยังซื้อขายบน PBV (แบบไม่รวมหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์) ต่ำมากเพียง 0.5 เท่า **บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS มุมมองออกมาเป็นกลาง โดยคาดว่ากำไรใน Q2/64 ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่จะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป บริษัทจะเข้าซื้อหุ้น 33% ใน Specialty Group ซึ่งธุรกิจหลักคือการผลิตสารสกัด และ OEM ในการผลิตสินค้า ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริม สมุนไพร และเครื่องสำอาง คำแนะนำพื้นฐาน ยังมองว่าผลประกอบการของ RS ยังคงได้รับแรงกดดันจากภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อีกทั้งยังออกสินค้าใหม่มาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ทำให้รายได้ไม่เข้ามาในขณะทีมีค่าใช้จ่ายเข้ามาเราคงคำแนะนำ wait-and-see รอการฟื้นตัวที่ชัดเจนของภาพกำไร **บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ยืนยันมุมมองเชิงบวกของฝ่ายวิจัยต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานปีนี้ และการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวของบริษัท PTT วางกลยุทธ์การเติบโตในระยะยาวทั้งในส่วนของธุรกิจปัจจุบันและธุรกิจในอนาคต โดยมีเป้าหมายการลงทุนที่จะสอดรับกับ global mega trends และแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1) Energy, 2) Future Energy, และ 3) Beyond Energy คำแนะนำพื้นฐาน แนวโน้มการเติบโตของกำไรปี 2564 หนุนโดยการฟื้นตัวของอุปสงค์อย่างต่อเนื่องและส่วนต่างราคาที่ขยายตัว คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนั้นการลงทุนใหม่ต่างๆ จะหนุนการเติบโตของกำไรในระยะยาว มูลค่าหุ้นปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2564 ที่ 1.1 เท่า เราคาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2564 ที่ 5.6% รวมทั้งน่าจะมีอัพไซด์สำหรับอัตราการจ่ายเงินปันผล เนื่องจากบริษัทมีเงินสดในมือจำนวนมาก เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 55 บาท **บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ยืนยันมุมมองเชิงบวกทั้งจากธุรกิจหลัก อสังหา ที่บริษัทสามารถสร้างผลประกอบการได้ดีอย่างต่อเนื่อง และยังมีอัพไซด์จากธุรกิจใหม่ที่บริษัทขยายการลงทุนออกไป 2H64 บริษัทมี Backlog ราว 9.4 พันล้านบาท ที่พร้อมโอนซึ่งรองรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่เอาไว้ทั้งหมดแล้ว และ Backlog ส่วนที่เหลืออีก 2.5 หมื่นล้านบาท จะทยอยโอนใน 2565-67 คำแนะนำพื้นฐาน ยืนยันคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 10 บาท และยังมีอัพไซด์ในอนาคตเมื่อธุรกิจใหม่ของบริษัทมีความชัดเจนและส่งกำไรกลับมาที่ ORI มากขึ้น คาดราคาหุ้นจะ Re-rate PE ขึ้นได้ premium กว่ากลุ่มพัฒนาอสังหาฯทั่วไป **บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC สารออกมาเป็นกลาง เนื่องจากข่าวร้ายจากการปรับรายได้ปี 2564 ลดลงจากการปิดเมือง (Q3/64) จะชดเชยด้วยการกลับมาของรายได้หลังเปิดเมืองอย่างรวดเร็ว ในระยะสั้นเห็นความเสี่ยงการปรับประมารการกำไรลงจากตลาด เทียบกับฝ่ายวิจัยที่คาดการณ์กำไรหลักต่ำมากแล้วที่เพียง 125 ล้านบาทในปี 2564 และที่3.1 พันล้านบาทในปี 2565 (ฟื้นตัวราว 40% ของกำไรก่อนการระบาด COVID-19) คำแนะนำพื้นฐาน แนะนำให้นักลงทุน ทยอยสะสม อย่างมีสารสำคัญ เนื่องจากค่อนข้างมั่นใจว่าราคาหุ้นสามารถยืนที่ 30 บาทได้ (ถ้าหลุดก็แป๊บเดียวมาก) เนื่องจาก 1) ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงถึง 21% ในรอบ 3 เดือนล่าสุด ซึ่งเป็นระดับสะท้อนข่าวร้ายการขาดทุนในระยะสั้นมากแล้ว, และ 2) มูลค่าหุ้นซื้อขายที่ PBV ล่าสุดที่ 3.5 เท่า ต่ำกว่าผู้นำกลุ่มอย่าง CPALL ที่ 5.6 เท่ามาก และ CRC ซื้อขายที่ Price to Sales ปี 2565 เพียง 0.8 เท่า คงคำแนะนำ ซื้อ CRC ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 42 บาท **บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ยืนยันมุมมองเชิงบวกของฝ่ายวิจัยต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 2H64 และโอกาสในการลงทุนใหม่ของบริษัท โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ energy transition โดยจะเริ่มลงทุนในส่วนของธุรกิจ LNG, oxygen, hydrogen รวมทั้งแสวงหาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องต่อไป คำแนะนำพื้นฐาน แนวโน้มผลประกอบการ 2H64 ที่ดีขึ้น และมุมมองเชิงบวกของตลาดต่อโอกาสการเติบโตจากธุรกิจใหม่คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ ราคาหุ้นปัจจุบันซึ่งซื้อขายที่ PBV ปี 2564 ที่ 0.5 เท่าและอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2564 ที่ 7.2% (เทียบกับ 3% ของ SET) น่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้น ในกลุ่มโรงกลั่น ยังคงชอบ TOP (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 69 บาท) มากกว่า เนื่องจากกำไรมีความไวต่อการฟื้นตัวของค่าการกลั่นมากกว่า **บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU และ บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการเข้าลงทุนในโครงการ Temple-I โดยในอนาคตอาจมี synergy ร่วมกันระหว่าง BANPU และ BPP ในการเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการทำกำไรของโครงการ Temple-I ทั้งนี้ BANPU ได้มีการป้องกันความเสี่ยงด้านราคาถ่านหินไว้บางส่วน จึงอาจเกิด hedging loss ในช่วง 2H64 จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้นแรง คำแนะนำพื้นฐาน คาดว่าภายใน Q4/64 ตลาดจะปรับประมาณการกำไรระยะยาวของทั้ง BANPU และ BPP ขึ้นจากการเข้าลงทุนในโครงการ Temple-I โดยเรายังคงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ต่อ BANPU (อยู่ระหว่างการทบทวนราคาเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนและการออก warrant) และ "ซื้อ" ต่อ BPP (ราคาเป้าหมาย 22 บาท) **กลุ่ม ธนาคาร และการเงิน ข่าวการออกราชกิจจานุเบกษาเรื่องการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้ โดยผู้ทวงถามหนี้สามารถเก็บค่าธรรมเนียมไม่เกินห้าสิบบาทต่อรอบการทวงถามหนี้ ในกรณีที่ลูกหนี้มีหนี้ค้างชำระหนึ่งงวด และไม่เกินหนึ่งร้อยบาทต่อรอบในกรณีที่ลูกหนี้มีหนี้ค้างชำระมากกว่าหนึ่งงวด ห้ามไม่ให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้อีกภายหลังจากได้รับชำระหนี้ครบตามจำนวนหรือมีการบอกเลิกสัญญาตามกฎหมาย และประกาศมีผลบังคับใช้หลังจากพ้นกำหนด 30 วัน คำแนะนำพื้นฐาน คาดจะมีผลกระทบต่อประมาณการกำไรของกลุ่มธนาคารค่อนข้างจำกัด (ไม่เกิน 1% ของประมาณการกำไรทั้งปี) เนื่องจากค่าทวงถามติดตามหนี้ในแต่ละธนาคารมีสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับรายได้รวม รวมทั้งที่ผ่านมาบางธนาคารมีการ wave ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้เป็นระยะๆ ในขณะที่กลุ่มการเงิน คาดมีผลกระทบต่อประมาณการกำไรแบบจำกัดเช่นกัน (ไม่เกิน 1% ของประมาณการกำไรทั้งปี) เนื่องจากพอรต์สินเชื่อหลักส่วนใหญ่ของกลุ่มการเงินประกอบไปด้วย สินเชื่อบัตรเครดิต (KTC) สินเชื่อส่วนบุคคล (KTC SAWAD และMTC) และสินเชื่อจำนำทะเบียน (MTC SAWAD และ TIDLOR) โดยสินเชื่อกลุ่ม HP และ Leasing (MTC SAWAD TIDLOR และ KTC) ส่วนใหญ่มีสัดส่วนที่น้อยรวมทั้งบางบริษัทมีการ wave ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้เป็นระยะเช่นกัน
ทันหุ้น • 18 ส.ค. 64
อ่าน
SINGER จับมือ SGC เปิดตัวสินเชื่อ SG Finance+ เจาะตลาดสมาร์ทโฟน
#ทันหุ้น - SINGER จับมือ SGC แกรนด์โอเพนนิ่งสินเชื่อ SG Finance+ เดินหน้าแคมเปญ Locked Phoneเจาะตลาดสมาร์ทโฟน ดันยอดขายโต คุมเสี่ยง นำเทคโนโลยีหนุน โดย J ventures เบื้องหลังผู้พัฒนาระบบ และประกาศจับมือพาร์ทเนอร์ 3 แบรนด์มือถือชั้นนำ OPPO - VIVO - XIAOMI ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนได้ง่ายด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่สาขาของร้านขายโทรศัพท์มือถือที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ตั้งเป้าสิ้นปีได้รับการตอบรับลูกค้า 100,000 สัญญา หรือพอร์ตสินเชื่อโตแตะ 1,200 ลบ. มั่นใจ S-Curve ใหม่ธุรกิจ นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่ซิงเกอร์ครบรอบ 135 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาซิงเกอร์เป็นผู้นำการขายระบบเช่าซื้อ เพื่อให้คนไทยได้เป็นเจ้าของสินค้าได้ง่ายขึ้น และบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญทางด้านการนำเทคโนโลยีมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเพื่อนำมาพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น จนมาถึงปีนี้เป็นปีที่บริษัทฯ ได้ทำเทคโนโลยีด้านการยืนยันตัวตน การทำ Credit scoring ผ่านการทำ Digital app ที่พัฒนาโดย บริษัท เจเวนเจอร์ส จำกัด ภายใต้สินเชื่อใหม่ เอสจี ไฟแนนซ์พลัส (SG Finance+) นับเป็น Business Model ใหม่ ที่ให้ผลตอบแทนดี Yield สูง ควบคู่ไปกับการปล่อยสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ ด้วยเทคโนโลยี Device Locking จากพาร์ทเนอร์ ทำให้สามารถล็อคเครื่องได้กรณีไม่ผ่อนชำระ ซึ่งจะทำให้ NPL ต่ำ และสามารถอนุมัติได้ภายใน 3 นาที ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งลูกค้า และพันธมิตรร้านค้ากลุ่ม IT ที่จะสามารถสร้างยอดขายได้มากขึ้น ด้วย Business Model นี้ จะสนับสนุนให้ภาพรวมธุรกิจและพอร์ตสินเชื่อที่เติบโตอย่างมีคุณภาพ ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC (บริษัทในกลุ่ม SINGER) หนึ่งในผู้นำด้านสินเชื่อชั้นนำของประเทศ ทั้งสินเชื่อรถทำเงิน (C4C) สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า (Hire Purchase) และสินเชื่อประเภทอื่นๆ กล่าวว่า SGC เปิดตัวผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ เอสจี ไฟแนนซ์พลัส (SG Finance+) สินเชื่อที่ให้ลูกค้าสามารถผ่อนสมาร์ทโฟนได้ โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว โดยดำเนินการในรูปแบบสัญญาเช่าซื้อ (Hire Purchase) พร้อมเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ 1 มิถุนายน 2567 นี้ ในเฟสแรก SGC ได้จับมือพาร์ทเนอร์ 3 แบรนด์มือถือชั้นนำ OPPO - VIVO - XIAOMI ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนได้ง่าย พร้อมกับการนำเทคโนโลยีมาเสริมทัพการให้บริการที่รวดเร็วขึ้น อนุมัติและรู้ผลไว ภายใน 3 นาที มีอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มต้นที่ 1.25% ต่อเดือน ด้วยระยะเวลาผ่อนมือถือไม่เกิน 24 เดือน ซึ่งสามารถใช้บริการสินเชื่อ SG Finance+ ได้ที่สาขาของร้านขายโทรศัพท์มือถือที่ร่วมรายการทั่วประเทศแบบเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป โดยมี Dealer ที่เข้าร่วมรายการได้แก่ AIS Telewiz, TG Phone, COM7, IT City, Jaymart Mobile, SINGER และกำลังเดินหน้าจับมือพันธมิตรเพิ่มเติม ด้วยเป้าหมายร้านค้ากว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ SG Finance+ ตั้งเป้าจะมียอดปล่อยสินเชื่อในปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท ภายใต้สัญญาทั้งหมด 100,000 สัญญา
ทันหุ้น • 24 พ.ค. 67
อ่าน
25 Degrees Bangkok สุดยอดความอร่อยที่คนรักเบอร์เกอร์ต้องลอง
สวัสดีเบอร์เกอร์เลิฟเวอร์ทุกคนค่า วันนี้เราจะพาทุกคนไปกินเบอร์เกอร์ที่อร่อยที่สุดในกรุงเทพ ฯ เลยก็ว่าได้ร้านนี้มีชื่อว่า 25 DEGREES Bangkok พิกัดไม่ใกล้ไม่ไกลตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของโรงแรม Pullman Hotel G ย่านสีลม ร้านอยู่ด้านหน้าเลยจ้าสังเกตง่ายมาก ร้านตกแต่งสไตล์อเมริกัน กลิ่นอายชิคาโก้เบา ๆ เหมือนกินเบอร์เกอร์ที่เมืองนอกกันเลยทีเดียว แถมช่วงนี้มีโปรโมชันเพียบ นอกจากที่นี่จะมีเมนูเบอร์เกอร์แล้ว ก็ยังมีเมนูอื่น ๆ อีกเพียบ ทั้งซี่โครงหมูบาร์บีคิว มันฝรั่งทอดหลากหลายสไตล์ ปลาหมึกทอดท่านเล่นแบบฟิน ๆ ไก่ทอดบาร์บีคิว และไฮไลท์เด็ดของที่นี่ต้องยกให้ Milk Shake (160-.) เลยจ้ามีให้เลือกกัน 4 รสชาติVanilla bean ,Double Chocolate, Strawberry และ Chocolate & Banana บอกเลยว่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่งตอนนี้มีโปร 1 แถม 1 ทุกวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 11.00 - 15.00 น.ด้วยนะคะทุกคน เมนูเบอร์เกอร์จะมีให้เลือกทั้งหมด 8 เมนูกันเลยเริ่มต้นที่ 330 บาท และถ้าอยากจะเพิ่มอะไรในเบอร์เกอร์ของเราก็มีให้เลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ วันนี้เราเลือกเป็นเบอร์เกอร์ Number One เเละเลือกเปลี่ยนขนมปังเป็นแบบ Gluten-free ในเบอร์เกอร์ก็จะมี Caramalized onion , Crescenza , Prelibato Gorgonzola , Bacon ,Augula , Thousand Island เลือกเพิ่ม Avocado ดูจากวัตถุดิบต่าง ๆ อัดแน่นขนาดนี้ต้องลองให้ได้เลยนะคะ นอกจากเมนูแนะนำทั้งเบอร์เกอร์และ Milk Shake แล้วนะคะ ยังมีเมนูของทานเล่น หรือใครจะทานแบบจริงจังก็ย่อมได้ เราสั่งมาทานเล่น ๆ กัน 2 เมนูเลยค่ะ 5555 เมนูแรกคือ Potato wedges ( 180-. บาท)กับ Topping แบบต่าง ๆ มีให้เลือก 3 Topping คือ Spicy Thai Herb , Mexican Salsa และ Cheesy Chili สำหรับจานที่เราสั่งจะเป็น Topping ด้วย Mexican Salsa นะคะ เป็นTopping ที่ให้ความสดชื่นจากมะเขือเทศ กับอโวคาโด เมนูที่สอง ก็คือเมนู Beer Battered Chicken Wings (6 ชิ้น 180-.บาท) หรือปีกไก่บาร์บีคิวนั่นเองค่า ปีกไก่ทอดกรอบ ๆ ฉ่ำซอสบาร์บีคิวแบบโฮมเมด อร่อยเด็ดมาก ๆ คิดแล้วก็หิวอย่างกินอีกแล้ว ใครที่เป็นสาวกของเบอร์เกอร์แบบต้นตำรับด้วยรางวัลการันตีมากมายเราบอกเลยว่าต้องมา ของเด็ดของอร่อย บรรยากาศดี โปรโมชันเพียบ แถมมีอาหารอื่น ๆ ให้เลือกทานอีกด้วยนอกจากเบอร์เกอร์ ใครที่แวะเวียนผ่านมาแถวสีลม ถือได้ว่าร้านนี้ควรมาเช็คอินความอิ่มอร่อย แล้วจะติดใจแบบ Appro around the world แน่นอนเลยน้า 📍25 Degrees Bangkok FB : 25 Degrees Bangkok. สั่งเดลิเวอรี 🛵 GRAB 🛵 LINEMAN 🛵 FOODPANDA 🛵 ROBINHOOD ⏰ เวลาเปิด - ปิดทุกวันเวลา7am - 9 pm (ปกติเปิด 24 ชม.) 📱 023524192 | @25degreesbkk (LINE@) 📨 25degreesmanager@randblab.com 🌎 www.randblab.com/25degrees-bkk เรื่องและภาพโดย : Appro around the world #25degreesburger #25degreesBangko #pullmanhotelg #ร้านเบอร์เกอร์อร่อยในกรุงเทพ #ร้านอาหารน่านั่งในกรุงเทพ #เที่ยวกรุงเทพช่วงโควิด #ไก่ทอดบาร์บีคิว
Appro around the world • 28 ม.ค. 64
อ่าน
“เผ่าภูมิ”ถกทวิภาคีมาเลเซีย เปิดประตู Islamic-Halal Finance สู่ Fin Hub ไทย
เผ่าภูมิ ถกทวิภาคี ขุนคลังมาเลเซีย ยกความร่วมมือในภูมิภาค กุญแจสำคัญรับมือความเสี่ยงการค้าโลก เปิดประตู Islamic-Halal Finance สู่ Fin Hub ไทย นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ASEAN Finance Ministers and Central Bank Governors (AFMGM) ณ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2568 ได้ประชุมทวิภาคีกับ H.E. Datuk Seri Amir Hamzah Azizan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หมายเลข 2 มาเลเซีย โดยในการหารือได้มุ่งสร้างความร่วมมือระหว่างภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหาจุดสมดุลในการรับมือนโยบายด้านภาษีของสหรัฐอเมริกา โดยไทยยืนยันในระบบการค้าเสรีและมุ่งเน้นเจรจาให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและภูมิภาคอย่างรอบคอบ เขากล่าวว่า เชื่อว่าความร่วมมือระหว่างประเทศในอาเซียนมีส่วนสำคัญยิ่งสำหรับการรับมือการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ในระหว่างการหารือ ทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือแนวทางเชิงลึกและความเป็นไปได้ในการปรับสมดุลในรายละเอียด ทั้งด้าน อัตราภาษี การส่งออก การนำเข้าเพื่อแปรรูปและส่งออกต่อ ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) ลดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-tariff barriers (NTBs)) ทั้งนี้ทั้ง 2 ฝ่ายมีความเห็นว่าการสร้างความร่วมมือกันในระดับภูมิภาคเป็นสิ่งที่สำคัญ นอกจากนั้น ยังได้มีการหารือถึงการยกระดับการเชื่อมต่อการชำระเงินระหว่างประเทศระหว่างไทย-มาเลเซีย โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ และหารือความคืบหน้าของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจทางการเงิน (Financial Hub) ของไทยในมิติการเงินอิสลาม (Islamic Finance) ซึ่งหน่วยงาน OSA ซึ่งจะกำกับธุรกิจการเงินระหว่างประเทศใน Financial Hub ของไทย พร้อมยกระดับการทำงานร่วมกับ Labuan IBFC ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับของฝั่งมาเลเซีย โดยประเทศไทยยินดีเป็นประตูแห่งโอกาสให้กับนักลงทุนใน Halal Finance, Islamic Microfinance และแพลตฟอร์มดิจิทัลที่สอดคล้องกับหลักศาสนา การหารือยังครอบคลุมแนวทางขยายการให้บริการ Takaful (ประกันภัยอิสลาม) Islamic Credit และเครื่องมือทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนมุสลิม โดยอาศัยศักยภาพของ Financial Hub และระบบการเงินดิจิทัลของทั้งสองประเทศในการเชื่อมโยง
ทันหุ้น • 9 เม.ย. 68
ดูเพิ่มเติม